
เรียนสิฟัต 20 ผ่านแนวคิดตรรกนิยม ดีกว่าจริงหรือ
Sukiman Tuanno
ผู้ดูแล · 7 ชม. · Ko Samui, Surat Thani
เรียนอากีดะเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮฺได้ครอบคลุมความหมายกุรอานฮาดิษ ผมว่าแนวทางซีฟัต 20 นี่แหละครอบคลุมที่สุด และรวบรวมพื้นฐานที่บ่งถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺได้อย่างรวบรัดกระชับครอบคลุมและเนื้อหาอย่างเป็นหลักการที่สุดในการรู้จักอัลลอฮฺ
ส่วนซีฟัตอื่นๆ เช่น อัลคอลิก อัลมาลิก อัลมุเซาวิร และ... มันก็อยู่ในวงของซีฟัต 20 นั้นแหละ มันจะเกิดจากซีฟัตมาอานียจากซีฟัต 20 นั้นแหละ
ผู้ดูแล · 7 ชม. · Ko Samui, Surat Thani
เรียนอากีดะเกี่ยวกับคุณลักษณะของอัลลอฮฺได้ครอบคลุมความหมายกุรอานฮาดิษ ผมว่าแนวทางซีฟัต 20 นี่แหละครอบคลุมที่สุด และรวบรวมพื้นฐานที่บ่งถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺได้อย่างรวบรัดกระชับครอบคลุมและเนื้อหาอย่างเป็นหลักการที่สุดในการรู้จักอัลลอฮฺ
ส่วนซีฟัตอื่นๆ เช่น อัลคอลิก อัลมาลิก อัลมุเซาวิร และ... มันก็อยู่ในวงของซีฟัต 20 นั้นแหละ มันจะเกิดจากซีฟัตมาอานียจากซีฟัต 20 นั้นแหละ
แนวมาตุรีดีนั้นมีแค่ 13 ซีฟัต ที่จริงก็เพียงพอนะ แต่สำหรับคนที่จะเข้าใจง่ายไปอีก ซีฟัต 20 นี่แหละจะดีกว่า เป็นการเพิ่มจากซีฟัตมาอานียเป็นซีฟัตมะนาวียะ(เป็นอัมรุนอิอตีบารียอีกที)
บางอุลามาอฺบอกว่าของมาตุรีดียดีกว่า เพราะยิ่งรวบรัดกระชับ ยิ่งเป็นผลดีต่อการผูกมัดความเข้าใจในหัวใจที่เรียกว่า "อากีดะ" ได้ดีกว่า
@@@@
ชี้แจง
ข้างต้นเป็นความคิดเห็นล้วนๆของคุณ Sukiman Tuanno บอกว่า เป็นหลักการที่สุดในการรู้จักอัลลอฮฺ
ขอแย้งว่า แนวทางอธิบายคุณลักษณะของอัลลอฮ โดยเอาปัญญานำหน้าหลักฐาน เอาหลักฐานชงและตีความให้กินกับตรรกทางปัญญา เป็นแนวคิดที่ เป็นตาบอดคลำช้างหาพระเจ้าไม่เจอจนทุกวันนี้
เรียนสิฟาต الوجود แปลว่าอัลลอฮมี แต่พอหลักฐานบอกว่าอยู่บนฟ้า ก็ใช้ตรรกแถ และมโน ว่าถ้าเชื่อตามตัวบท เป็นให้สถานที่แก่อัลลอฮ จนเอาตรรกทางปัญญาตีความว่า หมายถึง ฐานันดร ไม่ใช่อยู่บนฟ้า พระเจ้าอยู่ทุกที่ บ้างก็บอกมี แต่ไม่รู้อยู่ใหน เพราะปราศจากสถานที่ -นะอูซุบิลละฮ
ปราชญ์สะลัฟนั้นยืนยัน ว่าอัลลอฮตาอาลาอยู่บนฟ้า โดยอาศัยหลักฐานอัลกุรอ่านและหะดิษ เช่น หะดิษญารียะฮที่พวกญะฮมียะฮปฏิเสธเพราะไม่กินกับตรรกทางปัญญา
ปราชญ์สะลัฟนั้นยืนยัน ว่าอัลลอฮตาอาลาอยู่บนฟ้า โดยอาศัยหลักฐานอัลกุรอ่านและหะดิษ เช่น หะดิษญารียะฮที่พวกญะฮมียะฮปฏิเสธเพราะไม่กินกับตรรกทางปัญญา
อิหม่ามอุษมาน บิน สะอีด อัดดาริมีย์(ฮ.ศ 200-280)กล่าวว่า
إن الأمة كلها، والأمم السالفة قبلها، لم يكونوا يشكون في الله تعالى أنه فوق السماء، بائن من خلقه، غير هذه العصابة الزائغة عن الحق المخالفة للكتاب وأثارات العلم كلها
แท้จริงบรรดาอุมมะฮทั้งหมด และบรรดาอุมมะฮสะลัฟก่อนพวกเขา พวกเขาไม่สงสัย เกี่ยวกับอัลลอฮตาอาลา ว่า แท้จริง ทรงอยู่เหนือชั้นฟ้า แยกจากมัคลูคของพระองค์ อื่นจากกลุ่มนี้(หมายถึงพวกแนวคิดญะฮมียะฮ)ที่เบี่ยงเบนออกจากสัจธรรม ที่ขัดแย้งกับอัลกุรอ่านและบรรดาร่องรอยแห่งความรู้ทั้งหมดของมัน - อัรร็อดอะลัลญะฮมียะฮ หน้า 54
มุหัมหมัด บิน อิสหาก อิบนุมันดะฮ(310- 395 ปราชญที่เกือบทันสะลัฟกล่าวว่า
ذكر الآي المتلوة والأخبار المأثورة في أن الله عز وجل على العرش فوق خلقه بائنا عنهم وبدء خلق العرش والماء، قال الله عز وجل: {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [طه : 5] وقال: {ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَن}ُ [الفرقان : 59] وقال: {إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ} [يونس : 3])
การระบุบรรดาอายาตที่ถูกอ่านและบรรดาคำบอกเล่าที่ถูกสืบร่องรอยมา ว่าแท้จริง อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่ง อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) เหนือมัคลูคของพระองค์ โดยแยกจากพวกเขา และทรงริเรื่มสร้าง อะรัชและน้ำ ,อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่งอตรัสว่า
الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ฏอฮา/5
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَنُ فَاسْأَلْ بِهِ خَبِيرًا
แล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบังลังก์ พระผู้ทรงกรุณาปรานี ดังนั้นจงถามผู้รู้เกี่ยวกับพระองค์- อัลฟุรกอน/59
ذكر الآي المتلوة والأخبار المأثورة في أن الله عز وجل على العرش فوق خلقه بائنا عنهم وبدء خلق العرش والماء، قال الله عز وجل: {الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى} [طه : 5] وقال: {ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَن}ُ [الفرقان : 59] وقال: {إِنَّ رَبَّكُمُ اللَّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ} [يونس : 3])
การระบุบรรดาอายาตที่ถูกอ่านและบรรดาคำบอกเล่าที่ถูกสืบร่องรอยมา ว่าแท้จริง อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่ง อยู่บนบัลลังค์(อะรัช) เหนือมัคลูคของพระองค์ โดยแยกจากพวกเขา และทรงริเรื่มสร้าง อะรัชและน้ำ ,อัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยื่งอตรัสว่า
الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى
ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ฏอฮา/5
ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ الرَّحْمَنُ فَاسْأَلْ بِهِ خَبِيرًا
แล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบังลังก์ พระผู้ทรงกรุณาปรานี ดังนั้นจงถามผู้รู้เกี่ยวกับพระองค์- อัลฟุรกอน/59
إِنَّ رَبَّكُمُ اللّهُ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٍ ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْشِ
แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านคืออัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในเวลา 6 วันแล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ยูนูส /3 - กิตาบุตเตาฮีด ของ อิบนุมันดะฮ เล่ม ๓ หน้า ๑๘๕ -๑๘๗
แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านคืออัลลอฮ์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในเวลา 6 วันแล้วพระองค์ทรงสถิตย์อยู่บนบัลลังก์ -ยูนูส /3 - กิตาบุตเตาฮีด ของ อิบนุมันดะฮ เล่ม ๓ หน้า ๑๘๕ -๑๘๗
สำหรับเรื่องสิฟัต 20 ตามแนวตรรกอริสโตเติ้ลนั้น
หลังจากที่ อิหม่ามนะวาวีย์ ยืนยันว่า คนที่จะเป็นผู้ศรัทธานั้น เมื่อเขายึดมั่นต่อศาสนาอิสลาม อย่างมั่นคง
เขาก็คือผู้ศรัทธา ไม่จำเป็นจะต้องเรียนหลักฐานของบรรดานักกะลาม ซึ่งเป็นหลักฐานทางปัญญา ใช้เหตุผลอธิบายเตาฮีด
อิหม่ามนะวาวีย์กล่าวว่า
เขาก็คือผู้ศรัทธา ไม่จำเป็นจะต้องเรียนหลักฐานของบรรดานักกะลาม ซึ่งเป็นหลักฐานทางปัญญา ใช้เหตุผลอธิบายเตาฮีด
อิหม่ามนะวาวีย์กล่าวว่า
، خِلَافًا لِمَنْ أَوْجَبَ ذَلِكَ وَجَعَلَهُ شَرْطًا فِي كَوْنِهِ مِنْ أَهْلِ الْقِبْلَةِ ، وَزَعَمَ أَنَّهُ لَا يَكُونُ لَهُ حُكْمُ الْمُسْلِمِينَ إِلَّا بِهِ . وَهَذَا الْمَذْهَبُ هُوَ قَوْلُ كَثِيرٍ مِنَ الْمُعْتَزِلَةِ وَبَعْضِ أَصْحَابِنَا الْمُتَكَلِّمِينَ . وَهُوَ خَطَأٌ
แตกต่าง กับผู้ที่บอกว่า ดังกล่าวนั้น (หมายถึงเรียนหลักฐานของนักกะลาม) เป็นวาญิบ และเขาได้กำหนดให้เป็น เงื่อนไข ในการเป็นมุสลิม (อะฮลุลกิบลัต) และเขาเข้าใจว่า จะไม่ได้รับหุกุมว่าเป็นมุสลิม นอกจากจะต้องรู้หลักฐานของนักกะลาม และนี้คือ มัซฮับ มันคือ ทัศนะของพวกมุอตะซิละฮส่วนมากและส่วนหนึ่งของบรรดาสหายของเรา(หมายถึงอุลามาอฺมัซฮับชาฟิอีบางส่วน) ที่เป็นบรรดานักวิชาการกะลาม(นักวิภาษวิทยา) และมัน คือ ทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน -ดู ชัรหมุสลิม 17/197
..................................................
อิหม่ามนะวาวีย อะธิบายว่า พวกที่บอกว่า คนจะเป็นมุสลิมนั้นต้องเรียนรู้หลักฐานของบรรดานักวิภาษวิทยา พวกที่เข้าใจแบบนี้คือ พวกมุอฺตะซิละฮ และพวกนักวิชาการกะลาม และทัศนะดังกล่าวเป็นทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน
..................................................
อิหม่ามนะวาวีย อะธิบายว่า พวกที่บอกว่า คนจะเป็นมุสลิมนั้นต้องเรียนรู้หลักฐานของบรรดานักวิภาษวิทยา พวกที่เข้าใจแบบนี้คือ พวกมุอฺตะซิละฮ และพวกนักวิชาการกะลาม และทัศนะดังกล่าวเป็นทัศนะที่ผิดอย่างชัดเจน
เพราะฉะนั้น วาทกรรมของนาย Sukiman Tuanno แค่ตรรกทางปัญญาที่คิดขึ้นมาเองตามความเข้าใจไร้หลักฐานทางวิชาการมีแต่หลักแถ ไปวันๆ ไร้น้ำหนักด้วยประการทั้งปวง
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
26/2/61
อะสัน หมัดอะดั้ม
26/2/61

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น