วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2560

อ้างว่าเป็นอาชาอิเราะฮแต่ไม่รู้ประวัติอบูหะซันอัลอัชอะรีย์


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

อ้างว่าเป็นอาชาอิเราะฮแต่ไม่รู้ประวัติอบูหะซันอัลอัชอะรีย์
حمد حفيظ
2 ชม.
อัสลามุอลัยกุมว่าเราะมาตุ้ลลอฮิว่าบาร่อกาตุ
มีกลุ่มชน นึงกล่าวว่า อีหม่ามอบูฮะซัน อัลอัซอารี รฮ ได้เตาบัตตัว แล้วยึดมั่นตามแนวทางที่เขาบอกว่า ตรงกับเขาในเรื่อง การยึดมั่นคิอ ยึดตาม ซอเฮร อายะอัลกุรอ่าน
(มุชับบะฮะ วาฮาบียะ) โดยนำหลักฐานมาจาก กีตาบ อิบานะ ที่ อีหม่าม อะบูฮะหัน อัซอารี รฮ เป้นผู้แต่ง
ผมเลยงงว่า. บรรดาลูกศิษย์ สืบทอดกันมานั้น ไม่มีใครเข้าใจ แบบวาฮาบียะ เลยหรือ และ ไฉน วาฮาบี ถึงกระโดดไปเป็น ลูกศิษย์เอก โดยนำกีตาบมาบอกว่า อีหม่ามอบูฮะซัน อัซอารี รฮ มีอากีดะ ตรงกันกับพวกเขา วาฮาบียะ
ฉะนั้น ผม งงว่า วาฮาบี เรียนกีตาบอิบานะ ผ่านใครครับ หรือ นั่งไทม์แมชชีน ไปเอามาโดยที่ บรรดา อุลามาที่เป็นลูกศิษย์ อีหม่ามอบูฮาซัน อัซอารี รฮ สืบทอดมา ไม่มีใครรู้เรื่อง กีตาบอิบานะสักคนเดียว
@@@@@
ขี้แจง
อะชาอิเราะฮสายใหม่บางคน ปฏิเสธปิดหูปิดตาว่า ที่อบูหะซัน อัลอัชอะรีย์ กลับตัวจากแนวคิดมุอตะซิละฮนั้นไม่จริง ด้วยเหตุที่แนวคิดอาชาอิเราะฮในปัจจุบัน ไม่ตรงกับอิหม่ามอาชาอิเราะฮตัวจริงและหนักไปทางแนวมุอตะซิละฮสมัยที่อบูหะซันอัลอัชอะรีย์ยังไม่กลับตัว ดังนั้นจึงปิดตาปฏิเสธหลักฐานการกลับตัวของ อบูหะซันอัลอัชอะรีย์
ต่อไปนี้คือคำยืนยันว่า อิหม่ามอบูหะซันอัลอัชอะรีย์ ได้กลับตัวออกจากแนวคิดมุอฺตะซิละฮ
1.อิบนุอะสากีร(ร.ฮ)ฮ.ศ 499-571 กล่าวถึงการกลับตัวออกจากแนวคิดมุอตะซิละฮ ของอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์จากรายงานของ อิบนุอัซซะฮ(ร.ฮ)ว่า
. فقال لي : الأشعري شيخنَا ، وإمامنَا ومن عليهِ معولنَا . أقام على مذاهب المعتزلة أربعين سنة ، وكان لهم إماما ، ثم غاب عن الناس في بيته خمسة عشر يوما ، وبعد ذلك خرج إلى الجامع ، فصعد المنبر ، وقال : معاشر الناس إني إنما تغيبت عنكم في هَذِهِ المدة ، لأني نظرت فتكافأت عندي الأدلة ، ولم يترجح عندي حق على باطل ، ولا باطل على حق ، فاستهديت اللَّه تبارك وتعالى فهداني ، إلى اعتقاد ما أودعته في كتبي هَذِهِ ، وانخلعت من جميع ما كنت أعتقده ، كما انخلعت من ثوبي هذا ، وانخلع من ثوب كان عليه ورمى به ...
อัลอัชอะรีย์ ครูของเราและอิหม่ามของเรา และผู้ที่ยึดถือเขาเขาในหมู่พวกเรา กล่าวว่า เขา(อบูหะซัน) ได้ดำเนินอยู่บนมัซฮับมุอตะซิละฮ เป็นเวลา 40 ปี และ(ในเวลานั้น)เขาเป็นผู้นำของพวกเขา ต่อมาเขาได้ปลีกตัวจากบรรดาผู้คนเป็นเวลา 15 วัน แล้วหลังจากนั้น เขาได้ออกมายังมัสญิดญาเมียะ แล้วขึ้นบนมินบัร และกล่าวว่า "โอ้บรรดาปรชาชนทั้งหลาย แท้จริงข้าพเจ้าได้ปลีกตัวจากพวกท่าน ในระยะเวลาเหล่านี้ เพราะข้าพเจ้า พิจารณาดู และข้าพเจ้าได้รวบรวม หลักฐานมากมายที่ อยู ณ ที่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะ รู้ได้ว่า ความจริงมีน้ำหนักเหนือความเท็จและไม่สารมารถที่จะรู้ได้ว่า ความเท็จมีนน้ำหนักกว่าความจริง(หมายถึงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ) ข้าพเจ้าจึง ขอฮิดายะฮ(การชี้นำ)ต่ออัลลอฮ ตาอาลา แล้วพระองค์ก็ได้ฮิดายะฮต่อข้าพเจ้า ไปสู่อะกีดะฮ ที่ข้าพเจ้าได้ฝากมันไว้ ในหนังสือข้าพเจ้าเล่มนี้ และข้าพเจ้าขอถอนตัวจากสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยยึดมั่นต่อมัน (เคยเอียะติกอด) ดังที่ข้าพเจ้าได้ถอด เสื้อผ้าข้องข้าเจ้าชื้นนี้ แล้วเขาก็ได้ถอดเสื้อ ที่เขาสวมใส่มันอยู่ และเขาก็ขว้างมันทิ้ง ....ดู อัตตับยีน ฯ หน้า 39
2.อิบนุกะษีร (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
ذكروا للشيخ أبي الحسن الأشعري ثلاثة أحوال: أولها: حال الاعتزال التي رجع عنها لا محالة. الحال الثاني: إثبات الصفات العقلية السبع وهي: الحياة والعلم والقدرة والإرادة والسمع والبصر والكلام. وتأويل الخبرية كالوجه واليدين والقدم والساق ونحو ذلك.الحال الثالث: إثبات ذلك كله من غير تكييف ولا تشبيه جرياً على منوال السلف، وهي طريقته في (الإبانة) التي صنفها آخراً"
“พวกเขาระบุว่า อบูหะซันอัลอัชอะรีย์ มี 3 สถานะภาพ
1. สถานะภาพของการเป็นมุอตะซิละฮ ที่เขาได้กลับออกจากมันอย่างแน่นอนแล้ว 
2. การรับรองบรรดาสิฟัตอักลียะฮ คือ อัลหัยยาต, อัลอิลมุ,อัลกุดเราะตุ, อัลอิรอดะตุ, อัสสัมอุ ,อัลบะเศาะรุ และอัลกะลาม และตีความ(ตะอฺวีล) สิฟัตเคาะบะรียะฮ เช่น ใบหน้า ,สองมือ, เท้า, หน้าแข้ง เป็นต้น 
3. รับรองคุณลักษณะดังกล่าวนั้นทั้งหมด โดยไม่อธิบายรูปแบบวิธีการ และไม่เปรียบเทียบว่าคล้ายคลึง(กับมัคลูค) โดยการดำเนินตามรูปแบบสะลัฟ และมันคือแนวทางของเขา (ของอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์) ในหนังสืออัลอิบานะฮ ที่เขาได้เรียบเรียงมัน อีกเล่มหนึ่ง – เฏาะบะกอตอัชชาฟิอียีน เล่ม 1 หน้า 210 และ อิตติหาดอัสสาดะฮอัลมุตตะกีน ของ อัซซะบีดีย เล่ม 2 หน้า 4
-----------
จะเห็นได้ว่า “อิหม่ามอบูหะซัน ได้กลับตัวมายึดอะกีดะฮตามแนวสะลัฟ ส่วนกลุ่มอะชาอีเราะฮ ยังคงยึดแนวทางของอบูหะซัน ในช่วงที่สอง คือ การตีความสิฟัตเคาะบะรียะฮ เช่น คำว่า ใบหน้า (الوجه ) ,สองมือ (اليدين ) เป็นต้น
3. อิหม่ามอัซซะฮะบีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
فله ثلاثة أحوال: حال كان معتزلياً، وحال كان سنياً في البعض دون البعض، و حال كان في غالب الأصول سنياً، وهو الذي علمناه من حاله
เขา(อบูหะซัน)มี 3 สถานะสภาพ คือ 
1. สภาพของการเป็นผู้มีแนวคิดมุอฺตะซิละฮ 
2. สถานะภาพเขาเป็นสุนนีย์(อะฮลุสสุนนะฮ)ในบางส่วน ไม่ใช่ในบางส่วน
3. และสถานะภาพที่เขาอยู่ในรากฐานของอะฮลุสสุนนะฮเป็นส่วนใหญ่ และเขาคือผู้ที่ข้าพเจ้าได้รู้จัก จากสถานะภาพของของเขา-ดู กิตาบอัลอะรัช เล่ม 1 หน้า 400
พี่น้องอาชาอิเราะฮครับ ตีโพย ตีพายอยู่ทำไม ตรวจสอบตัวเองซิครับ ว่าท่านมีอะกีดะฮตรงกับอบูหะซันอัลอัชอะรีย์ อาชาอิเราะฮตัวจริงหรือไม่ เพราะท่านได้กลับมายึดอะกีดะฮตามแนวทางของอิหม่ามอะหมัด บิน หัมบัล
ตาญุดดีน อัสสุบกีย์ (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
أبو الحسن الأشعري كبير أهل السنة بعد الإمام أحمد ابن حنبل وعقيدته وعقيدة الإمام أحمد رحمة الله واحدة لاشك في ذلك ولا ارتياب وبه صرح الأشعري في تصانيفه وذكره غير مامرة من أتن عقيدتي هي عقيدة الإمام المبجل أحمد بن حنبل هذه عبارة الشيخ أبي الحسن في غير موضع من كلامه
อบูหะซัน อัลอัชอะรีย์ คือ ผู้อวุโสชาวอะฮลุสสุนนะฮ รองจากอิหม่ามอะหมัด และอะกีดะฮของเขา และอะกีดะฮของอิหม่ามอะหมัด (ร.ฮ) เป็นอะกีดะฮเดียวกัน อย่างไม่ต้องสงสัยในดังกล่าว และไม่มีการลังเลใจ และอิหม่ามอัลอัชอะรีย์ ได้ชี้แจงด้วยมันในบรรดาข้อเขียนของท่าน และได้ระบุไว้หลายครั้งด้วยกัน ว่า “อะกีดะฮของฉัน คืออะกีดะฮของอิหม่ามอัลมุบัจญัล อะหมัด บิน หัมบัล “ นี้คือข้อความของเช็คอบีลหะซัน ในหลายที่จากคำพูดของเขา – ดูอัเฏาะบะกอตอัชชาฟิอียะฮ เล่ม 3 หน้า 99
.........
เช็คอัสสุบกีย์ปราชญ์มัซฮับชาฟิอี ยืนยันว่า อิหม่ามอบูลหะซัน อัลอัชอะรีย์นั้น มีอะกีดะฮ เหมือนกับอะกีดะฮ
อิหม่ามอะหมัด บิน หัมบัล
แล้วอาชาอิเราะฮยุคหลัง มีอะกีดะฮตามทัศนะของอิหม่ามอะหมัด บิน หัมบัลหรือ ไม่ ตรวจสอบดู ไม่ต้องโวยวายตีโพยที่พาย ปัจจุบันปกปิดความจริงไม่ได้แล้วครับ ท่าน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/4/60

1 ความคิดเห็น:

  1. เเล้วทำไม่ในหลักฐานระบุว่า อาชาอีเราะห์ เตาบัตเเค่ หนึ่งครั้ง .ถ้าเกิด 3 ช่วงจริง เขาคงจะเตาบัต เป็น 2 ครั้งเเล้ว

    ตอบลบ