
วาทกรรมและเครื่องหมาย ผู้มีแนวคิดญะฮมียะฮ
Abdulhaleem Matraksa
25 สิงหาคม เวลา 1:33 น. • Saba Yoi, Songkhla
จากอายะฮฺ
الرحمن على العرش استوى
:พระผู้ทรงเมตาทรงมีฐานะสูงส่งเหนืออารัช
(แปลตามอิบบนุยารีร อัตตอบารียฺ)
แต่มุยัสสิมะฮฺแปลว่า
:....อยู่สูงเหนืออารัช
พอมันแปลแบบนั้นผมก็ถามมุยัสสิมะตนนั้นว่า
ถ้าท่านแปลว่าอยู่สูงแล้วคำพูดนี้จะแปลยังไง?
استوت الكواكب على السماء
:บรรดาดวงดาวอยู่สูงเหนือฟากฟ้า
ถ้ายังงั้นดวงดาวก็มีซีฟัตอิสติวาอฺ ด้วยงั้นหรา???
เขาไม่ตอบแต่ให้ลูกหาบมาแถแบบไร้สาระ แต่ผมจะตอบให้และเอาไปวิจารย์ที่ห้องฟิตนะฮฺด้วยนะ
25 สิงหาคม เวลา 1:33 น. • Saba Yoi, Songkhla
จากอายะฮฺ
الرحمن على العرش استوى
:พระผู้ทรงเมตาทรงมีฐานะสูงส่งเหนืออารัช
(แปลตามอิบบนุยารีร อัตตอบารียฺ)
แต่มุยัสสิมะฮฺแปลว่า
:....อยู่สูงเหนืออารัช
พอมันแปลแบบนั้นผมก็ถามมุยัสสิมะตนนั้นว่า
ถ้าท่านแปลว่าอยู่สูงแล้วคำพูดนี้จะแปลยังไง?
استوت الكواكب على السماء
:บรรดาดวงดาวอยู่สูงเหนือฟากฟ้า
ถ้ายังงั้นดวงดาวก็มีซีฟัตอิสติวาอฺ ด้วยงั้นหรา???
เขาไม่ตอบแต่ให้ลูกหาบมาแถแบบไร้สาระ แต่ผมจะตอบให้และเอาไปวิจารย์ที่ห้องฟิตนะฮฺด้วยนะ
@@@@
ชี้แจง
ข้างต้น เป็นเครื่องหมายของผู้มีแนวคิดญะฮมียะฮ มักจะกล่าวหาคนที่ยืนยันหรือรับรองคุณลักษณะของอัลลอฮตามความหมายในทางภาษาที่มีมาตามตัวบทโดยไม่ตีความว่า "พวกมุชับบะฮะฮ" พวกมุญัสสิมะฮ
อิบนุอะบิลอิซ (ร.ฮ)กล่าวว่า
وَكَذَلِكَ قَالَ خَلْقٌ كَثِيرٌ مِنْ أَئِمَّةِ السَّلَفِ : عَلَامَةُ الْجَهْمِيَّةِ تَسْمِيَتُهُمْ أَهْلَ السُّنَّةِ مُشَبِّهَةً ، فَإِنَّهُ مَا مِنْ أَحَدٍ مِنْ نُفَاةِ شَيْءٍ مِنَ الْأَسْمَاءِ وَالصِّفَاتِ إِلَّا يُسَمِّي الْمُثْبِتَ لَهَا مُشَبِّهًا
และในทำนองนั้น ผู้คนส่วนมากจากบรรดาอิหม่ามยุคสะลัฟ ได้กล่าวว่า "เครื่องหมายของญะฮมีญะฮ คือ การที่พวกเขาเรียก อะฮลุสสุนนะฮว่า "มุชับบะฮะฮ"(ผู้ที่เปรียบอัลลอฮกับมัคลูค) เพราะแท้จริง ไม่มีคนใดจากการปฏิเสธปฏิเสธสิ่งใดๆจากบรรดาพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ นอกจาก ผู้ที่รับรองมันจะถูกเรียกว่า "มุชับบะฮัน"(ผู้ที่เปรียบอัลลอฮกับมัคลูค)- ดูชัรหอะกีดะฮอัฏเฏาะหาวียะฮ 1/86
บาบอ Abdulhaleem Matraksa ไม่เข้าใจ อะกีดะฮสะลัฟแล้วนั่งเทียนมโนว่า คนรับรองคุณลักษณะของอัลลอฮ ตามความหมายที่มีมาตามตัวบทที่อัลลอฮและรอซูล ศอ็ลฯ บอกว่า เป็นพวกมุญัสสิมะฮ
มาดูข้อเท็จจริง ที่สวนทางกับตรรกของบาบออับดุลฮาลีม แห่งสะบ้าย้อย คือ
มาดูข้อเท็จจริง ที่สวนทางกับตรรกของบาบออับดุลฮาลีม แห่งสะบ้าย้อย คือ
อบูอิสหาก อิบรอฮีม บิน ชากิลัน อัลหัมบะลีย์ (ฮ.ศ 369) ได้กล่าวกับ อบีสุลัยมาน อัดดัมชะกีย์ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ตาม อิบนุกุลลาบ (หัวหน้ามุอฺตะซิละฮ) ในการโต้วาที ระหว่างทั้งสอง เมื่อ อบูสุลัยมานกล่าวกับเขาว่า
"أنتم المشبهة
พวกท่านคือ พวกมุชับบิฮะฮ
อิบนุชากิลัน(ฮ.ศ 369) กล่าวว่า
"أنتم المشبهة
พวกท่านคือ พวกมุชับบิฮะฮ
อิบนุชากิลัน(ฮ.ศ 369) กล่าวว่า
حاشا لله، المُشبِّه الذي يقول: وجهٌ كوجهِي، ويَدٌ كَيَدِي، فأما نحن فنقول: له وجهه، كما أثبت لنفسه وجهًا، وله يدٌ، كما أثبتَ لنفسه يَداً، {لَيْسَ كَمِثْلِهِ شَيْءٌ وَهُوَ السَّمِيعُ الْبَصِيرُ} [الشورى : 11] ومن قال هذا فقد سَلِم.) (11
“เป็นไปไม่ได้” อัลมุชับบิฮะฮคือ ผู้ที่กล่าวว่า “ใบหน้า เหมือนใบหน้าของฉัน สำหรับเรานั้น เรากล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระพักต์ของพระองค์ ดังที่พระองค์ ได้รับรอง คำว่าใบหน้า แก่พระองค์เอง และ พระองค์ทรงมีพระหัตถ์ ดังที่พระองค์ทรงรับรองคำว่ามือ แก่ตัวของพระองค์เอง (ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้น คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงเห็น) และผู้ใดกล่าวแบบนี้ แน่นอนเขาปลอดภัย –(1)
...................
(1)طبقات الحنابلة لابن أبي يعلى (ج3 ص239)، قال: "قرأت بخط الوالد السعيد (أبو يعلى) قال: نقلتُ من خط أبي بكر بن شاقلا قال: أخبرنا أبو إسحاق بن شاقلا – قراءة عليه- قال: ... فذكر المناظرة
-------------------------
ข้างต้น หวังว่าคงชัดเจนว่า การรับรองความหมายที่ปรากฏตามตัวบท โดยไม่ได้ไปเปรียบเทียบ และไม่ได้เชื่อไปว่า เหมือนหรือคล้ายคลึงกับมัคลูคนั้น “ไม่ใช่มุชับบะฮะฮ” ตามที่ถูกกล่าวหาโดย อะชาอีเราะฮยุคหลัง
...................
(1)طبقات الحنابلة لابن أبي يعلى (ج3 ص239)، قال: "قرأت بخط الوالد السعيد (أبو يعلى) قال: نقلتُ من خط أبي بكر بن شاقلا قال: أخبرنا أبو إسحاق بن شاقلا – قراءة عليه- قال: ... فذكر المناظرة
-------------------------
ข้างต้น หวังว่าคงชัดเจนว่า การรับรองความหมายที่ปรากฏตามตัวบท โดยไม่ได้ไปเปรียบเทียบ และไม่ได้เชื่อไปว่า เหมือนหรือคล้ายคลึงกับมัคลูคนั้น “ไม่ใช่มุชับบะฮะฮ” ตามที่ถูกกล่าวหาโดย อะชาอีเราะฮยุคหลัง
ดังนั้น เมื่อไม่ใช่เป็นการตัชบีฮ แล้วจะเป็นพวกมุญัสสิมะฮ หรือพวกให้รูปร่างแก่อัลลอฮได้อย่างไร
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์กล่าวว่า
ليس يلزم من إثبات صفاته شيء من إثبات التشبيه والتجسيم، فإن التشبيه إنما يقال: يدٌ كيدنا ...
ส่วนหนึ่งจากการรับรองบรรดาคุณลักษณะของพระองค์ นั้น ไม่จำเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งจากการรับรองการตัชบิฮ(การคล้ายคลึง)และตัจญซีม(การมีรูปร่าง) เสมอไป ความจริงการตัชบิฮ(การเปรียบเทียบสิฟัตอัลลอฮกับมัคลูต)นั้น เช่น มือ เหมือนกับมือของเรา.....- อัลอัรบะอีน ฟี สิฟาติรอ็บบิลอาละมีน เล่ม 1 หน้า 104
............
............
บาบอ Abdulhaleem Matraksa ไม่เข้าใจภาษา ในคำว่า
استوى على
ความหมายข้างต้นแกนนำอาชาอิเราะฮ ให้ความหมายว่า อำนาจปกครอง มาดูการตอบโต้ของ ปราชญ์ต่อไปนี้
อบูบักร์อัลบากิลานีย์ (ฮ.ศ 403)กล่าวว่า
استوى على
ความหมายข้างต้นแกนนำอาชาอิเราะฮ ให้ความหมายว่า อำนาจปกครอง มาดูการตอบโต้ของ ปราชญ์ต่อไปนี้
อบูบักร์อัลบากิลานีย์ (ฮ.ศ 403)กล่าวว่า
لا يجوز أن يكون معنى استوائه على العرش استيلاؤه عليه لأن الاستيلاء هو القدرة والقهر، والله تعالى لم يزل قادراً قاهراً. وقوله: ثُمَّ اسْتَوَى عَلَى الْعَرْش يقتضي استفتاح هذا الوصف بعد أن لم يكن. فبطل ما قالوه
ไม่อนุญาตให้ความหมายการอิสติวาอฺของพระองค์ เหนือบัลลังค์ ว่าคือ การอิสตีลาอฺ(การปกครอง)เหนือมัน ดังคำพูด ของนักกวี ที่ว่า
“บะชีร ยึดครอง อิรัก โดยไม่ใช้ดาบและไม่นองเลือด “
ไม่อนุญาตให้ความหมายการอิสติวาอฺของพระองค์ เหนือบัลลังค์ ว่าคือ การอิสตีลาอฺ(การปกครอง)เหนือมัน ดังคำพูด ของนักกวี ที่ว่า
“บะชีร ยึดครอง อิรัก โดยไม่ใช้ดาบและไม่นองเลือด “
เพราะว่าแท้จริง มันคือ พลานุภาพ และ อำนาจ ทั้งๆที่ อัลลอฮตาอาลานั้น ทรงเป็นผู้ทรงอนุภาพและเป็นผู้ทรงอำนาจ อยู่เสมอแล้ว และคำตรัสของพระองค์ที่ว่า(หลังจากนั้นทรงอิสติวาอฺ เหนือบัลลังค์-อัลอะรอฟ/54 ) หมายความว่า คุณลักษณะนี้เริ่มมี (หมายถึงอำนาจปกครอง) หลังจากที่มันไม่มี ดังนั้น สิ่งที่พวกเขากล่าวมัน (หมายถึงที่อ้างว่า มีความหมายว่าอำนาจปกครองนั้น) เป็นโมฆะ –อัตตัมฮีด ของ อัลบากิลานีย์ หน้า 262
................
สรุป
อบูบักร อัลบากิลานีย์ บอกว่า ไม่อนุญาตให้ความหมายคำว่า อิสติวา ว่า อำนาจปกครอง (อิสติลาอฺ) เพราะถ้าให้ความหมายนี้ ก็เท่ากับว่า เมื่อก่อนอัลลอฮไม่มีอำนาจ แล้วมีขึ้นมาที่หลัง เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเขากล่าวว่า อิสติวาอฺ คือ อำนาจปกครองนั้น เป็นโมฆะ
อบูมันศูร อัลอัซฮะรีย์(ฮ.ศ 282-370 )กล่าวว่า
................
สรุป
อบูบักร อัลบากิลานีย์ บอกว่า ไม่อนุญาตให้ความหมายคำว่า อิสติวา ว่า อำนาจปกครอง (อิสติลาอฺ) เพราะถ้าให้ความหมายนี้ ก็เท่ากับว่า เมื่อก่อนอัลลอฮไม่มีอำนาจ แล้วมีขึ้นมาที่หลัง เพราะฉะนั้น สิ่งที่พวกเขากล่าวว่า อิสติวาอฺ คือ อำนาจปกครองนั้น เป็นโมฆะ
อบูมันศูร อัลอัซฮะรีย์(ฮ.ศ 282-370 )กล่าวว่า
وقال الأخفش: استوى أي علا، ويقول: استويت فوق الدابة وعلى ظهر الدابة: أي علوته
อัลอัคฟัซ ได้กล่าวว่า “อิสตะวา หมายถึง อะลา(สูง /ชึ้น )และเขากล่าวว่า ฉันขึ้น(ขี่)บนหลังสัตว์พาหนะ และ อยู่บนหลังสัตว์พาหนะฮ หมายถึง ฉันได้ขี่มัน – ตะฮซีบุลลุเฆาะฮ 13/125
ข้างต้น เขาอธิบาย คำว่า استوى ว่ามีความคำว่า علا แปลว่าสูง ,ขึ้น ,ขี่ ในทางภาษา
แต่นาย Abdulhaleem Matraksa พยายามใช้ตรรกทางวิชานาฮู แล้วชง ว่า คนที่ให้ความหมายว่า อิสตะวา อะลา (استوى على ) คือ พวกที่ให้สถานที่แก่ อัลลอฮ แล้วเอาไปเปรียบกับตัวอย่างที่นักปราชญ์ยกมา ซึ่งเขาต้องการบอกว่า มีความหมาย ว่า สูง หรืออยู่สูง ไม่ใช่เอามาเปรียบกับมัคลูค ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะอัลลอฮอยูสูงเหนือมัคลูค แยกจากมัคลูค

ข้างต้น เขาอธิบาย คำว่า استوى ว่ามีความคำว่า علا แปลว่าสูง ,ขึ้น ,ขี่ ในทางภาษา
แต่นาย Abdulhaleem Matraksa พยายามใช้ตรรกทางวิชานาฮู แล้วชง ว่า คนที่ให้ความหมายว่า อิสตะวา อะลา (استوى على ) คือ พวกที่ให้สถานที่แก่ อัลลอฮ แล้วเอาไปเปรียบกับตัวอย่างที่นักปราชญ์ยกมา ซึ่งเขาต้องการบอกว่า มีความหมาย ว่า สูง หรืออยู่สูง ไม่ใช่เอามาเปรียบกับมัคลูค ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะอัลลอฮอยูสูงเหนือมัคลูค แยกจากมัคลูค
อิหม่ามอัดดารีมีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า
إن الأمة كلها، والأمم السالفة قبلها، لم يكونوا يشكون في الله تعالى أنه فوق السماء، بائن من خلقه،
แท้จริง อุมมะฮทั้งหมด และบรรดาอุมมะฮผู้เป็นสะลัฟก่อนพวกเขา พวกเขา ไม่สงสัย ในอัลลอฮ ตาอาลา ว่าแท้จริง พระองค์อยู่เหนือฟากฟ้า แยกจากมัคลูคของพระองค์ - อัรรอด อะลัลญะฮมียะฮ หน้า 21
....
อิบนุคุซัยมะฮ มีชื่อเต็มว่า มุหัมหมัด บิน อิสหาก บิน คุซัยมะฮ บิน อัลมุฆีเราะฮ บิน ศอลิห บิน บักรฺ อัสสะละมีย์ อัลนัยสะบูรีย์ อัชชาฟิอี (ฮ.ศ 223-311 ) กล่าวว่า
แท้จริง อุมมะฮทั้งหมด และบรรดาอุมมะฮผู้เป็นสะลัฟก่อนพวกเขา พวกเขา ไม่สงสัย ในอัลลอฮ ตาอาลา ว่าแท้จริง พระองค์อยู่เหนือฟากฟ้า แยกจากมัคลูคของพระองค์ - อัรรอด อะลัลญะฮมียะฮ หน้า 21
....
อิบนุคุซัยมะฮ มีชื่อเต็มว่า มุหัมหมัด บิน อิสหาก บิน คุซัยมะฮ บิน อัลมุฆีเราะฮ บิน ศอลิห บิน บักรฺ อัสสะละมีย์ อัลนัยสะบูรีย์ อัชชาฟิอี (ฮ.ศ 223-311 ) กล่าวว่า
فنحن نؤمن بخبر الله جل وعلا : أن خالقنا مستو على عرشه ؛ لا نبدل كلام الله ، ولا نقول قولا غير الذى قيل لنا ؛ كما قالت المعطلة الجهمية : إنه استولى على عرشه ، لا استوى ؛ فبدلوا قولا غير الذى قيل لهم ، كفِعْل اليهود : لما أمروا أن يقولوا : حِطَّة ، فقالوا : حنطة ؛ مخالفين لأمر الله جل وعلا ، كذلك الجهمية.
เราศรัทธา ด้วยคำบอกเล่าของอัลลอฮ ผู้ทรงเกรียงไกรและทรงสูงส่ง ว่า แท้จริง ผู้ทรงสร้างพวกเรา คือ ผู้ทรงอยู่เหนือบัลลังค์ ,เราจะไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดของอัลลอฮ ,เราจะไม่กล่าว คำพูดใดๆ อื่นจากคำพูดที่ได้ถูกกล่าวแก่เรา ดังเช่นสิ่งที่ พวกอัลมุอฏิละฮอัลญะมียะฮ กล่าวว่า "แท้จริงพระองค์ทรงครอบครองเหนือบัลลังค์ พระองค์ไม่ได้ทรงอยู่ (เหนือบัลลังค์) ,พวกเขาก็ได้เปลี่ยนคำพูด อื่นจากคำพูดที่ถูกกล่าวแก่พวกเขา เช่นเดียวกับการกระทำของยะฮูด ขณะที่พวกเขา ถูกสั่งให้กล่าวว่า " หิฏเฎาะฮ" แล้วพวกเขากล่าวว่า "หินเฏาะฮ" โดยการที่พวกเขาขัดแย้ง ต่อคำสั่งของอัลลอฮ ผู้ทรงเกรียงไกรและผู้ทรงสูงส่ง ,ในทำนองเดี่ยวกับดังกล่าวนั้น คือพวกอัลญะมียะฮ - อัตเตาฮีด 1/233
@@@
กลุ่มแนวคิดญะฮมียะฮและมุอตะซิละฮที่ซึมซับเข้ากระดูกดำ พยายามหาเหตุผลและตรรกทางปัญญา ปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ เราจะนำหลักฐานมาเสนอกองสูงเท่าภูเขา คนเหล่านี้ก็กระเสือกกระสนหาเหตุปฏิเสธ และไม่สนใจรับรู้ ซึ่งไม่ต่างกับ สีซอ ให้ควายฟัง”
@@@
กลุ่มแนวคิดญะฮมียะฮและมุอตะซิละฮที่ซึมซับเข้ากระดูกดำ พยายามหาเหตุผลและตรรกทางปัญญา ปฏิเสธการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ เราจะนำหลักฐานมาเสนอกองสูงเท่าภูเขา คนเหล่านี้ก็กระเสือกกระสนหาเหตุปฏิเสธ และไม่สนใจรับรู้ ซึ่งไม่ต่างกับ สีซอ ให้ควายฟัง”
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
28/8/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
28/8/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น