วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เขาหาว่าวะฮบีย์แบ่งเตาฮีดเพื่อรับรองหลักอีหม่านของมุชริกีน


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ



เขาหาว่าวะฮบีย์แบ่งเตาฮีดเพื่อรับรองหลักอีหม่านของมุชริกีน

ไปพบในเว็บสะติวเด้น ข้อเขียน บันทึกว่า วิภาษทฤษฎีการแบ่งเตาฮีดของวะฮ์ฮาบีย์ By: al-azhary Date: มิ.ย. 27, 2012, 09:35
แล้วมีข้อความตอนหนึ่งว่า "
แต่การขัดแย้งระหว่างวะฮ์ฮาบียะฮ์กับอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อัลอะชาอิเราะฮ์นั้น อยู่ในประเด็นที่วะฮ์ฮาบียะฮ์ได้ทำการแบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ประเภทเพื่อรับรองหลักอีหม่านของพวกมุชริกีนว่า พวกเขาเชื่อมั่นในเตาฮีดรุบูบียะฮ์ที่มีต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างสมบูรณ์ และผลตามมาก็คือ ทำการฮุกุ่มบรรดาพี่น้องมุสลิมทั้งหลายอยู่ในฮุกุ่มของพวกมุชริกีนที่มีแต่เตาฮีดรุบูบียะฮ์เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีเตาฮีดอุลูฮียะฮ์ ดังนั้นหลักการแบ่งเตาฮีดนี้ ชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบ จึงนำมาปฏิบัติและใช้ตัดสินกับบรรดามุสลิมีนที่ต่างกับตนในยุคนั้นว่า เป็นพวกมุชริกีน และประกาศทำสงครามและรบราฆ่าฟันจนกระทั่งบรรดามุสลิมีนต้องเสียเลือดเสียเนื้ออย่างมากมายด้วยเหตุของทฤษฎีการแบ่งเตาฮีดดังกล่าว ฉะนั้นวะฮ์ฮาบียะฮ์ในปัจจุบันจำเป็นต้องปกป้องในหลักการแบ่งเตาฮีดดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อปกป้องความชอบธรรมของชัยค์มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบ นั่นเอง
ดังนั้นกระผมจะทำการนำเสนอทยอยทีละประเด็นๆในรูปแบบเชิงวิชาการ ในช่วงที่มีเวลาว่าง เพื่อวิเคราะห์ว่า การแบ่งเตาฮีดของกลุ่มวะฮ์ฮาบียะฮ์เพื่อรองรับหลักการที่ว่าพวกมุชริกีนมีอีหม่านและยอมรับในเตาฮีรุบูบียะฮ์นั้น ขัดแย้งกับอัลกุรอานและซุนนะฮ์หรือไม่และอย่างไร?
อัลลอฮุลมุสตะอาน
@@@@@
ชี้แจง
ไปเจอการวิจารณ์การแบ่งเตาฮีดเป็นสามประเภทที่เกรงว่า "คนอาวามจะเข้าใจผิด ด้วยคำที่เขากล่าวหาว่า
##"วะฮ์ฮาบียะฮ์ได้ทำการแบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ประเภทเพื่อรับรองหลักอีหม่านของพวกมุชริกีนว่า พวกเขาเชื่อมั่นในเตาฮีดรุบูบียะฮ์ที่มีต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลาอย่างสมบูรณ์ "##
ตามที่ได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า การแบ่งเตาฮีดเป็นสามประเภทนั้น เป็นการแบ่งโดยการสืบค้นคว้าพิจารณา(الاستقراءْ ْ)มาจากตัวบทอัลกุรอ่านและอัสสุนนะฮ ก็เหมือนกับการแบ่งองค์ประกอบสำคัญหรือรุกุนละหมาดออกเป็น 13 ประการ หรือ ที่ในเตาฮีดเคาะลัฟ อาชาอิเราะฮ แบ่งสิฟาตอัลลอฮ เป็น 20 สิฟาต แล้ว แยกประเภทออกมาเป็น สิฟัตนัฟสียะฮ สัลบียะฮ ,มะอานีย์ และมะนะวียะฮ 
จึงแปลกใจว่า ทำไมท่านอาจารย์ใหญ่จึงพุ่งเป้ามาวิจารณ์การแบ่งเตาฮีด 3 ประเภทและปรำปรำคนที่ถูกเรียกวะฮบีย์ว่า "แบ่งเตาฮีดเพื่อรับรองหลักการอีหม่านของพวกมุชริกีน(พวกตั้งภาคีต่ออัลลอฮ )
ขอเรียนผู้อ่านว่า
การยืนยันว่า บรรดาผู้ตั้งภาคี(พวกมุชริกีน)ในอดีต พวกเขายอมรับว่าอัลลอฮคิอผู้สร้าง ผู้บรรดาลสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ในคำว่า "รุบูบียะฮ" ซึ่งการศรัทธาในด้านรุบูบียะฮ(ด้านการอภิบาล)อย่างเดียวไม่สามารถที่ทำให้พวกเขาเป็นมุสลิมได้ ..นี่คือจุดที่ปราชญ์ที่ถูกอาชาอิเราะฮอุปโลกน์ให้เป็นวะฮบีย์ ชี้แจงและอธิบายมาตลอด แต่แกนนำอาชาอิเราะฮยุคหลังบางกลุ่มพยายามโจมตีว่า "แบ่งเตาฮีดเพื่อรับรองหลักศรัทธาพวกมุชริกีน" เพื่อเกิดการเข้าใจผิด ถูกมองในด้านลบ
เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องผู้อ่านมาดูหลักฐานต่อไปนี้
وَمَا يُؤْمِنُ أَكْثَرُهُم بِاللَّهِ إِلَّا وَهُم مُّشْرِكُونَ
และส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ เว้นแต่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคี - ยูซูฟ /106
อิบนุญะรีร (ร.ฮ) ได้รายงานคำอธิบายของ มุญาฮีด และเกาะตาดะฮ ดังนี้

حَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ عَمْرٍو ، قَالَ : حَدَّثَنَا أَبُو عَاصِمٍ ، قَالَ : حَدَّثَنَا عِيسَى ، عَنِ ابْنِ أَبِي نَجِيحٍ ، عَنْ مُجَاهِدٍ : ( وَمَا يُؤْمِنُ أَكْثَرُهُمْ بِاللَّهِ 
إِلَّا وَهُمْ مُشْرِكُونَ ) ، فَإِيمَانُهُمْ قَوْلُهُمْ : اللَّهُ خَالِقُنَا وَيَرْزُقُنَا وَيُمِيتُنَا

มุหัมหมัด บิน อัมริน ได้เล่าข้าพเจ้า โดยเขากล่าวว่า อบูอาศิม ได้เล่าเรา เขากล่าวว่า อีซาได้เล่าเรา ว่ารายงานจากอบีนาญีหฺจากมุญาฮีดว่า (และส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ เว้นแต่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคี) การศรัทธาของพวกเขา คือ คำพูดของพวกเขา ที่ว่า " อัลลอฮคือผู้สร้างเรา,ทรงประทาน
ปัจจัยยังชีฟแก่เราและทรงทำให้เราตาย -

حَدَّثَنَا بِشْرٌ ، قَالَ : حَدَّثَنَا يَزِيدُ ، قَالَ حَدَّثَنَا سَعِيدٌ ، عَنْ قَتَادَةَ ، قَوْلُهُ : ( وَمَا يُؤْمِنُ أَكْثَرُهُمْ بِاللَّهِ إِلَّا وَهُمْ مُشْرِكُونَ ) ، فِي إِيمَانِهِمْ هَذَا . إِنَّكَ لَسْتَ تَلْقَى أَحَدًا مِنْهُمْ إِلَّا أَنْبَأَكَ أَنَّ اللَّهَ رَبُّهُ ، وَهُوَ الَّذِي خَلَقَهُ وَرَزَقَهُ ، وَهُوَ مُشْرِكٌ فِي عِبَادَتِهِ

บะชีรได้เล่าเรา โดยเขากล่าวว่า ยะซีดได้เล่าเรา ,เขากล่าวว่า สะอีดได้เล่าเรา ว่ารายงานจากเกาะตาดะฮ ,คำตรัสของพระองค์ที่ว่า (และส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ เว้นแต่พวกเขาเป็นผู้ตั้งภาคี) ในการศรัทธาของพวกเขานี้ แท้จริงท่านจะไม่ได้พบคนหนึ่งคนใดจากพวกเขา นอกจาก เขาจะบอกท่านว่า "แท้จริงอัลลอฮ คือ พระผู้อภิบาลของเขา และพระองค์คือ ผู้ที่สร้างเขา,ประทานปัจจัยยังชีพแก่เขา ทั้งที่เขาคือมุชริก(ผู้ตั้งภาคี)ในการอิบาดะฮของเขา - ดูตัฟสีรอัฏเฏาะบะรีย์ เล่ม 16 หน้า 288
.......
หลักฐานข้างต้นแสดงให้เห็นว่า บรรดามุชริกีนกุเรชในสมัยนบี ศอ็ลฯ พวกเขา ศรัทธาในการอภิบาล(รุบูบียะฮ)ของอัลลอฮ แต่พวกเขา ตั้งภาคีต่ออัลลอฮในการเคารพภักดี(อิบาดะฮ ) ซึ่งหมายถึงชิริกในด้านอุลูฮียะฮ
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า
قُل لِّمَنِ الْأَرْضُ وَمَن فِيهَا إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “แผ่นดินนี้ และผู้ที่อยู่ในนั้นเป็นของใคร หากพวกท่านรู้”-อีลมุมินูน/84
อิบนุกะษีร (ร.ฮ)อธิบายว่า

يُقَرِّرُ تَعَالَى وَحْدَانِيَّتَهُ ، وَاسْتِقْلَالَهُ بِالْخَلْقِ وَالتَّصَرُّفِ وَالْمُلْكِ ، لِيُرْشِدَ إِلَى أَنَّهُ الَّذِي لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ ، وَلَا تَنْبَغِي الْعِبَادَةُ إِلَّا لَهُ وَحْدَهُ لَا شَرِيكَ لَهُ; وَلِهَذَا قَالَ لِرَسُولِهِ مُحَمَّدٍ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَنْ يَقُولَ لِلْمُشْرِكِينَ الْعَابِدِينَ مَعَهُ غَيْرَهُ ، الْمُعْتَرِفِينَ لَهُ بِالرُّبُوبِيَّةِ ، وَأَنَّهُ لَا شَرِيكَ لَهُ فِيهَا ، وَمَعَ هَذَا فَقَدَ أَشْرَكُوا مَعَهُ فِي الْإِلَهِيَّةِ ، فَعَبَدُوا غَيْرَهُ مَعَهُ ، مَعَ اعْتِرَافِهِمْ أَنَّ الَّذِينَ عَبَدُوهُمْ لَا يَخْلُقُونَ شَيْئًا ، .....
 
อัลลอฮตาอาลาได้ยืนยันความเป็นหนึ่งเดียว(เอกภาพ)ของพระองค์ และการเป็นเอกราชของพระองค์(หมายถึงไม่มีผู้หุ้นส่วน) ด้วยการสร้าง,การบริหาร และการปกครอง เพื่อทรงชี้แนะว่า แท้จริง พระองค์คือ ผู้ที่ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และ การอิบาดะฮนั้น จะไม่สมควร(แก่ผู้ใด) นอกจากแก่พระองค์แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆแก่พระองค์ เพราะเหตุนี้ พระองค์ทรงตรัสแก่รอซูลของพระองค์ มุหัมหมัด ศอ็ลฯ ให้เขา(นบีมุหัมหมัด)กล่าวกับบรรดามุชริกีน ที่เป็นผู้เคารพภักดีต่ออื่นจากพระองค์พร้อมกับพระองค์ ,บรรดาผู้ที่ยอมรับการอภิบาล(อัร-รุบูบียะฮ)ให้แก่พระองค์ และ แท้จริงไม่มีภาคีใดๆแก่พระองค์ในมัน(ในอัร-รุบูบียะฮ) พร้อมกันนี้ แท้จริงพวกเขาตั้งภาคีพร้อมกับพระองค์ ในด้านอุลูฮียะฮ(ด้านการเป็นพระเจ้า) เพราะพวกเขาเคารพภักดีอื่นจากพระองค์พร้อมกับพระองค์ ,พร้อมกับการยอมรับของพวกเขาว่า บรรดาผู้ที่พวกเขาเคารพภักดีนั้น พวกมันไม่สามารถสร้างสิ่งใดๆได้ ,........ดูตัฟสีร อิบนุกะษีร เล่ม 5 หน้า 489ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
...............
อิบนุกะษีร ยืนยันว่า พวกมุชริกีน ยอมรับใน เตาฮีดรู้บูบียะฮ แต่พวกเขาตั้งภาคี(ชิริก) ในเรื่อง อัลอุลูฮียะฮ กล่าวคือ อิบนุกะษีรอธิบายถึงลักษณะมุชริกีน ที่อัลลอฮให้ท่านนบี ศอ็ลฯกล่าวกับพวกเขา ตามอายะฮข้างต้น ซึ่งพวกเขามีลักษณะต่อไปนี้ 
1.พวกเขาอิบาดะฮอื่นจากอัลลอฮ
2. และพวกเขายอมรับรุบูบียะฮของอัลลอฮ ไม่มีภาคีใดๆในรุบูบียะฮนั้น
الْمُعْتَرِفِينَ لَهُ بِالرُّبُوبِيَّةِ ، وَأَنَّهُ لَا شَرِيكَ لَهُ فِيهَا
บรรดาผู้ที่ยอมรับ รุบูบียะฮ แก่พระองค์ และแท้จริง พระองค์ไม่มีภาคีใดๆในมัน(ในรุบูบียะฮ)
จากที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้หมายถึง การแบ่งเตาฮีดเพื่อรับรองหลักศรัทธาของมุชริกีน แต่ ต้องการแยกให้เห็นว่า มุชริกีนในอดีตยอมรับในรุบูบียะฮของอัลลอฮ แต่ มีการตั้งภาคี ในเรื่อง อุลูฮียะฮ ซึ่งไม่ได้ทำให้พวกเขาเป็นมุสลิม แต่พวกเขาจะต้องศรัทธาและยอมรับในเตาฮีดอุลูฮียะฮด้วย ดังคำอธิบายเพิ่มเติมต่อไปนี้
ในอายะฮที่ว่า
وَلَئِنْ سَأَلْتَهُمْ مَنْ خَلَقهم لَيَقُولُنَّ اللَّهُ
และหากเจ้าถามพวกเขาว่า ใครสร้างพวกเขา พวกเขาก็จะกล่าวว่า "อัลลอฮ" - อัศศุครุฟ /87
อิหม่ามอัสสะอฺดีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายว่า
ولئن سألت المشركين عن توحيد الربوبية، ومن هو الخالق، لأقروا أنه الله وحده لا شريك له... فإقرارهم بتوحيد الربوبية، يلزمهم الإقرار بتوحيد الألوهية
และถ้าหากเจ้าถามบรรดามุชริกีน เกี่ยวกับเตาฮีดรุบูบียะฮ และใครคือ ผู้ทรงสร้าง แน่นอนพวกเขาก็จะยอมรับว่า แท้จริงพระองค์คือ อัลลอฮ พระองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์ .. ดังนั้น การที่พวกเขายอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ พวกเขาจำเป็นจะต้องยอมรับในเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮด้วย"- ดูตัฟสีรอัฎวาอุลบะยาน เล่ม 3 หน้า 373-374
เช่นเดียวกัน อิบนุตัยมียะฮ(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)อรรถาธิบายอายะฮที่ว่า
وَلَئِن سَأَلْتَهُم مَّنْ خَلَقَهُمْ لَيَقُولُنَّ ٱللَّهُ فَأَنَّىٰ يُؤْفَكُونَ [الزخرف:87].
โดยกล่าวว่า
إقرار المشرك بأن الله رب كل شيء، ومليكه وخالقه، لا ينجيه من عذاب الله، إن لم يقترن به إقراره بأنه لا إله إلا الله، فلا يستحق العبادة أحد إلا هو؛ وأن محمداً رسول الله، فيجب تصديقه فيما أخبر، وطاعته فيما أمر
"มุชริกยอมรับว่าแท้จริงอัลลอฮ คือผู้อภิบาลทุกสิ่ง ,คือผู้ครอบครองและผู้ทรงสร้างมัน ซึ่งมันไม่ได้ทำให้เขาปลอดภัยจากการลงโทษของอัลลอฮ หากไม่ควบคู่ไปกับการยอมรับว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดเว้นแต่อัลลอฮ แล้วไม่มีบุคคลใดสมควรที่จะอิบาดะฮ นอกจากพระองค์ และแท้จริงมุหัมหมัด คือ ศาสนทูตของอัลลอฮ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องเชื่อในสิ่งที่เขา(มุหัมหมัด)บอกและเชื่อฟังในสิ่งที่เขา(มุหัมหมัด)ใช้ - มัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม 3 หน้า 105
..........
กระผมไม่ต้องการให้เนื้อหายาวเกินไป แต่ ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการยืนยันว่า การแบ่งเตาฮีด ไม่ได้มีเป้าหมายหลักในการรับรองหลักศรัทธา ของมุชริกีน อย่างที่อาชาอิเราะฮท่านนี้ ทำให้สับสนและเกิดภาพลบแก่มุสลิม ที่ถูกเรียกวะฮบีย์ แต่ ปราชญ์เขาแบ่งเตาฮีดสามประเภทโดยพิจารณาจากตัวบทหลักฐานและเพื่อให้เห็นความแตกต่างของเตาฮีดแต่ละประเภท และต้องการจะบอกว่า การศรัทธาในด้านรูบูบียะฮอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ แต่จะต้องยอมรับและศรัทธาในเตาฮีดอุลูฮียะฮ ซึ่งหมายถึงการให้เอกภาพในการเคารพภักดีต่ออัลลอฮด้วย นี่คือสาระสำคัญ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม 
29/7/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น