แปลก...เรียกร้องให้ตามสุนนะฮกลายเป็นเคาะวาริจญแต่เรียกร้องให้ทำบิดอะฮ กลับกลายเป็นอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ

แปลก...เรียกร้องให้ตามสุนนะฮกลายเป็นเคาะวาริจญแต่เรียกร้องให้ทำบิดอะฮ กลับกลายเป็นอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ

การกล่าวปฏิญานตนประโยคที่สอง ว่า

وأَشْهَدُ ان محمداً رسول الله

และฉันขอปฏิญานว่า มุหัมหมัดคือ ศาสนทูตของอัลลอฮ

ชัยค์มุหัมหมัด บิน อับดุลวะฮับ ได้ให้ความหมายว่า

معنى شهادة أن محمداً رسول الله: طاعته فيما أمر, وتصديقه فيما أخبر, واجتناب ما نهى عنه وزجر، وأن لا يعبد الله إلا بما شرع

ความหมายของการปฏิญาต ว่า แท้จริงมุหัมหมัด คือศาสนทูตของอัลลอฮ คือ เชื่อฟังในสิ่งที่นบีสั่งใช้ ,เชื่อในสิ่งที่นบีบอก ,ห่างใกลสิ่งที่นบีห้ามและเตือนให้ระวัง จากมัน และ อัลลอฮจะไม่ถูกอิบาดะฮ(เคารพภักดี) นอกจากด้วยสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้ - อุศูลษษะลาษะฮ หน้า 9

 

........
คำว่า อัลลอฮจะไม่ถูกเคารพภักดี นอกจากด้วยสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้" หมายถึง การปฏิบัติอิบาดะฮต่ออัลลอฮนั้น จะต้องนำเอาสิ่งที่เป็นบทบัญญัตฺิของศาสนา มาปฏิบัติ ต่ออัลลอฮ

อิหม่ามอะหมัด( ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า

والسنة عندنا آثار رسول الله صلى الله عليه وسلم، والسنة تفسر القرآن وهي دلائل القرآن وليس في السنة قياس، ولا تضرب لها الأمثال، ولا تدرك بالعقول ولا الأهواء إنما هو الاتباع وترك الهوى

และ อัสสุนนะฮนะฮ ในทัศนะของเราคือ บรรดาร่องรอย(หะดิษ)ของรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และอัสสุนนะฮ นั้น มันทำหน้าที่อรรถาธิบายอัลกุรอ่าน และมันคือ บรรดาหลักฐานของอัลกุรอ่าน และในอัสสุนนะฮนั้นไม่มีการกิยาส(ที่ขัดแย้งกับตัวบท) ,ไม่มีการยกตัวอย่างมาเทียบกับอัสสุนนะฮ และ อัสสุนนะฮ จะไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยเหตุผลทางปัญญาและอารมณ์, ความจริง มัน(อัสสุนนะฮ)คือ การเจริญรอยตามและละทิ้งการตามอารมณ์ -อัลมัดคอ็ล ฟี มัซฮับ อิหม่ามอะหมัด หน้า 69

..........
แปลก....คนที่เรียกร้องให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติและตามสุนนะฮนบี กลับกลายเป็นพวกหลงผิด ชั่วร้าย เป็นเคาะวาริจญ ในทัศนะของคนบางกลุ่มที่อนุรักษ์บิดอะฮ แต่ในทางกลับกัน คนที่เรียกร้อง ส่งเสริมให้ทำบิดอะฮ กลับเรียกตัวเองอย่างไม่กระดากอายว่า "เป็นชาวอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮของแท้" -นะอูซุบิลละฮ

والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
7/6/60