
เมื่อเขาโต้แย้งว่าให้กล่าวซิกริลละฮด้วยเสียงดัง(ตอนฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด)
อับดุอาซิ บินบาน
33 นาที
มีไม่มีไม่รู้
เวาะลองหาทีก็อปใหม่เองนะ ผมพยายามได้แค่นี้แหละ อัลฮัมดุลิ้ลาห์
แช่ ๆ อิหม่ามๆ
ทีว่าบิดอะอ่านวิริดทุกๆ หลังละหมาดฟัรดู มีดันนี้ครับ
1 อิบนุ ตัยมียะห์ 2 อิหม่าม อัซซาตีบีย์ 3 บินบาซ 4 อัลบานีย์ 5 แช ซอแหละ อัลเฟาซัน 6 แช่ ซูฮัยมีน และ อืนๆ
ในฟาตุหฮูล มูอิน. หน้า 24
ว่าถ้าหากว่า จะสอนหรือจะพบพา ญะมาอะฮ อ่านซิกิร และ ดุอาร์ อ่านเสียงดังเป็นทีอนุญาติไห้อ่านได้
ดาลิล รายงานจาก..... อิบนุอับบัส ตามนี้......
33 นาที
มีไม่มีไม่รู้
เวาะลองหาทีก็อปใหม่เองนะ ผมพยายามได้แค่นี้แหละ อัลฮัมดุลิ้ลาห์
แช่ ๆ อิหม่ามๆ
ทีว่าบิดอะอ่านวิริดทุกๆ หลังละหมาดฟัรดู มีดันนี้ครับ
1 อิบนุ ตัยมียะห์ 2 อิหม่าม อัซซาตีบีย์ 3 บินบาซ 4 อัลบานีย์ 5 แช ซอแหละ อัลเฟาซัน 6 แช่ ซูฮัยมีน และ อืนๆ
ในฟาตุหฮูล มูอิน. หน้า 24
ว่าถ้าหากว่า จะสอนหรือจะพบพา ญะมาอะฮ อ่านซิกิร และ ดุอาร์ อ่านเสียงดังเป็นทีอนุญาติไห้อ่านได้
ดาลิล รายงานจาก..... อิบนุอับบัส ตามนี้......
أَنَّ أَبَا مَعْبَدٍ مَوْلَى ابْنِ عَبَّاسٍ أَخْبَرَهُ أَنَّ ابْنَ عَبَّاسٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا أَخْبَرَهُ
أَنَّ رَفْعَ الصَّوْتِ بِالذِّكْرِ حِينَ يَنْصَرِفُ النَّاسُ مِنْ الْمَكْتُوبَةِ كَانَ عَلَى عَهْدِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ كُنْتُ أَعْلَمُ إِذَا انْصَرَفُوا بِذَلِكَ إِذَا سَمِعْتُهُ
أَنَّ رَفْعَ الصَّوْتِ بِالذِّكْرِ حِينَ يَنْصَرِفُ النَّاسُ مِنْ الْمَكْتُوبَةِ كَانَ عَلَى عَهْدِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ كُنْتُ أَعْلَمُ إِذَا انْصَرَفُوا بِذَلِكَ إِذَا سَمِعْتُهُ
แท้จริงแล้ว อบูมากบาดี อิบนุอับบัส ได้เล่ามาว่า การอ่านซีกิร ทุกๆหลังละหมาดฟัรดูเสร็จ อ่านเสียงดังนั้น มีมาในสมัยนบี (ซล) อับนุอับบัส ฉันรู้และเค่ยได้ยิงมา คนเขาอ่านซีกิรเสียงดัง ทุกๆหลังละหมาดเสร็จและตอนจะจากไปนอกมัสยิด
อิหม่าม อิบนฮะญาร อัสคาลานี (รล)
กล่าวว่า.........
وَفِيهِ دَلِيل عَلَى جَوَاز الْجَهْر بِالذِّكْرِ عَقِب الصَّلَاة
ในฮาดิษนี้ เอามาเป็นดาลิลได้ อ่านซีกิรดังๆ เมือเสร็จสิ้นการละหมาด
ทีเวาะเอามา อ้างจากอิหม่ามนาวาวีย์ และ อิหม่ามซาฟีอีย์ ก็เอาจากฮาดิษนี้และ เพราะอิหม่ามอืนๆ อีกสามท่าน (นอกจากอิหม่ามซาฟิอีย์) ไม่สงเสริมอ่านซีกิรเป็นญามาอะฮและเสียงดังหลังละหมาดฟัรดู
วัลลอฮฮูอะลัม.....
@@@
อิหม่าม อิบนฮะญาร อัสคาลานี (รล)
กล่าวว่า.........
وَفِيهِ دَلِيل عَلَى جَوَاز الْجَهْر بِالذِّكْرِ عَقِب الصَّلَاة
ในฮาดิษนี้ เอามาเป็นดาลิลได้ อ่านซีกิรดังๆ เมือเสร็จสิ้นการละหมาด
ทีเวาะเอามา อ้างจากอิหม่ามนาวาวีย์ และ อิหม่ามซาฟีอีย์ ก็เอาจากฮาดิษนี้และ เพราะอิหม่ามอืนๆ อีกสามท่าน (นอกจากอิหม่ามซาฟิอีย์) ไม่สงเสริมอ่านซีกิรเป็นญามาอะฮและเสียงดังหลังละหมาดฟัรดู
วัลลอฮฮูอะลัม.....
@@@
ชี้แจง
คุณ อับดุอาซิ บินบาน เอาหลักฐานไปตั้งกระทู้โต้บทความผมเรื่อง การซิกรุลลอฮหลังละหมาดเป็นหมู่คณะด้วยเสียงดังมีสุนนะฮจริงหรือ
แสดงว่า "ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด" เพราะประเด็นที่ผมพูดถึงคือ
1.การซิลลิลละฮเป็นหมู่คณะพร้อมกันด้วยเสียงดัง ไม่มีในสุนนะฮ
2.การซิกริลละฮเป็นหมูคณะด้วยเสียงดังไม่ควรปฏิบัติในมัสยิดเพราะสร้างความรบกวนแก่ผู้อื่น
1.การซิลลิลละฮเป็นหมู่คณะพร้อมกันด้วยเสียงดัง ไม่มีในสุนนะฮ
2.การซิกริลละฮเป็นหมูคณะด้วยเสียงดังไม่ควรปฏิบัติในมัสยิดเพราะสร้างความรบกวนแก่ผู้อื่น
สำหรับหะดิษที่คุณ อับดุอาซิ บินบาน อ้างและแกแปลเพี้ยนๆไม่ตรวจสอบว่าใช้ภาษาถูกหรือไม่คงจะคิดว่าเป็นหลักฐานเด็ดที่จะโต้แชสันว่างั้นเถอะ
ผู้อ่านมาดูเต็มๆและที่แปลถูกต้อง คือ
ผู้อ่านมาดูเต็มๆและที่แปลถูกต้อง คือ
حَدَّثَنَا إِسْحَاقُ بْنُ نَصْرٍ قَالَ حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ قَالَ أَخْبَرَنَا ابْنُ جُرَيْجٍ قَالَ أَخْبَرَنِي عَمْرٌو أَنَّ أَبَا مَعْبَدٍ مَوْلَى ابْنِ عَبَّاسٍ أَخْبَرَهُ أَنَّ ابْنَ عَبَّاسٍ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا أَخْبَرَهُ أَنَّ رَفْعَ الصَّوْتِ بِالذِّكْرِ حِينَ يَنْصَرِفُ النَّاسُ مِنْ الْمَكْتُوبَةِ كَانَ عَلَى عَهْدِ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَقَالَ ابْنُ عَبَّاسٍ كُنْتُ أَعْلَمُ إِذَا انْصَرَفُوا بِذَلِكَ إِذَا سَمِعْتُهُ
คำแปลตัวบท
อิบนุญุรัยจญ กล่าวว่า "อัมรินได้บอกข้าพเจ้า ว่า อบูมะอบัด ทาสของอิบนุอับบาส ได้บอกเขาว่า อิบนุอับบาส (ร.ฮ) ได้บอกเขาว่า "แท้จริง การซิกริลละฮ เสียงดัง เมื่อบรรดาผู้คนเสร็จจากละหมาดฟัรดู นั้น เคยปรากฏในสัยนบี ศอ็ลฯ และอิบนุอับบาส กล่าวว่า "ข้าพเจ้า รู้ ว่าพวกเขาเสร็จจากการละหมาดนั้น เมื่อข้าพเจ้าได้ยินมัน -บันทึกโดย อิหม่ามบุคอรี หะดิษหมายเลข 805
อิบนุญุรัยจญ กล่าวว่า "อัมรินได้บอกข้าพเจ้า ว่า อบูมะอบัด ทาสของอิบนุอับบาส ได้บอกเขาว่า อิบนุอับบาส (ร.ฮ) ได้บอกเขาว่า "แท้จริง การซิกริลละฮ เสียงดัง เมื่อบรรดาผู้คนเสร็จจากละหมาดฟัรดู นั้น เคยปรากฏในสัยนบี ศอ็ลฯ และอิบนุอับบาส กล่าวว่า "ข้าพเจ้า รู้ ว่าพวกเขาเสร็จจากการละหมาดนั้น เมื่อข้าพเจ้าได้ยินมัน -บันทึกโดย อิหม่ามบุคอรี หะดิษหมายเลข 805
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร(ร.ฮ) กล่าวว่า
قَالَ ابْنُ بَطَّالٍ : وَفِي " الْعُتْبِيَّةِ " عَنْ مَالِكٍ أَنَّ ذَلِكَ مُحْدَثٌ . قَالَ : وَفِي السِّيَاقِ إِشْعَارٌ بِأَنَّ الصَّحَابَةَ لَمْ يَكُونُوا يَرْفَعُونَ أَصْوَاتَهُمْ بِالذِّكْرِ فِي الْوَقْتِ الَّذِي قَالَ فِيهِ ابْنُ عَبَّاسٍ مَا قَالَ . قُلْتُ : فِي التَّقْيِيدِ بِالصَّحَابَةِ نَظَرٌ ، بَلْ لَمْ يَكُنْ حِينَئِذٍ مِنَ الصَّحَابَةِ إِلَّا الْقَلِيلُ ، وَقَالَ النَّوَوِيُّ : حَمَلَ الشَّافِعِيُّ هَذَا الْحَدِيثَ عَلَى أَنَّهُمْ جَهَرُوا بِهِ وَقْتًا يَسِيرًا لِأَجْلِ تَعْلِيمِ صِفَةِ الذِّكْرِ ، لَا أَنَّهُمْ دَاوَمُوا عَلَى الْجَهْرِ بِهِ ، وَالْمُخْتَارُ أَنَّ الْإِمَامَ وَالْمَأْمُومَ يُخْفِيَانِ الذِّكْرَ إِلَّا إِنِ احْتِيجَ إِلَى التَّعْلِيمِ .
อิบนุบัฏฏอ็ล ได้กล่าวว่า และในหนังสืออัลอุตบียะฮ (ฟิกฮมัซฮับมาลิกี) รายงานจากมาลิก ว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐขึ้นใหม่ เขากล่าวว่า ใน ความหมาย(ของหะดิษ)นั้น คือ บอกให้รู้วา แท้จริง บรรดาเศาะหาบะฮ พวกเขาไม่ได้กล่าวเสียงดัง ด้วยการซิกริลละฮ ในเวลาที่อิบนุอับบาสพูด สิ่งที่เขากล่าว เกี่ยวกับมัน "ข้าพเจ้า(อิบนุบัฏฏอ็ล)กล่าวว่า" ในการเจาะจง บรรดาเศาะหาบะฮ นั้น ต้องพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีเศาะหาบะฮในเวลานั้น นอกจากจำนวนน้อย และอันนะวาวีย์ กล่าวว่า "อัชชาฟิอี ได้ให้ความหมายหะดิษนี้ว่า พวกเขาซิกริลละฮเสียงดัง ในเวลาสั้นๆ เพราะต้องการสอนลักษณะ/รูปแบบการซิริลละฮ ไม่ใช่พวกเขาซิกริลละฮด้วยเสียงดังตลอดไป (คือไม่ได้กล่าวเสียงดังเป็นประจำ-ผู้แปล) และ สิ่งที่เป็นทางเลือก คือ แท้จริง ผู้ที่เป็นอิหม่าม และมะอฺมูม ให้เขาทั้งสองซิกริลละฮเบาๆ ยกเว้น เมื่อต้องการที่จะสอน (การซิกริลละฮ) - ดูฟัตหุลบารีย์ เล่ม 2 หน้า 326

.......
สรุปคือ
1.การกล่าวซิกริลละฮเสียงดัง เป็นบิดอะฮในทัศนะอิหม่ามมาลิก
2.ในขณะที่อิบนุอับบาสพูดนั้น บรรดาเศาะหาบะฮไม่ได้กล่าวซิกริลละฮด้วยเสียงดังแล้ว
3. ในการเจาะจงว่าบรรดาเศาะหาบะฮกล่าวซิกริลละฮด้วยเสียงดังนั้น เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา เพราะในเวลานั้น บรรดาเศาะหาบะฮมีจำนวนน้อย
3.ความเข้าใจของอิหม่ามชาฟิอี เกี่ยวกับหะดิษนี้คือ เหล่าเศาะหาบะฮซิกริลละฮเสียงดัง ในเวลาสั้นๆเท่านั้นเพื่อสอนวิธิซิกริลละฮ
4. ตามทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีนั้น ให้อิหม่ามและมะอมูมซิกริลละฮเบาๆ ยกเว้นในกรณีที่ต้องการจะสอนวิธีซิกริลละฮ
.........
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ขอให้ คุณ อับดุอาซิ บินบาน แยกแยะให้ถูก อ่านมาให้ครับถ้วน จะได้รู้ว่า การซิกริลละฮเสียงดังในกรณีใด และการห้ามซิกริลละฮที่ผมได้พูดถึง คือ การซิกริลละฮพร้อมๆกันเป็นหมู่คณะ ทั้งอิหม่ามและมะอมูม ด้วยเสียงดัง หลังจากละหมาด ซึ่งไม่มีแบบอย่างจากสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ และขอถามคุณ อับดุอาซิ บินบาน ว่า คุณสังกัดมัซฮับชาฟิอีไม่ใช่หรือ ทำไมจึงไม่ศึกษาให้ดี
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ขอให้ คุณ อับดุอาซิ บินบาน แยกแยะให้ถูก อ่านมาให้ครับถ้วน จะได้รู้ว่า การซิกริลละฮเสียงดังในกรณีใด และการห้ามซิกริลละฮที่ผมได้พูดถึง คือ การซิกริลละฮพร้อมๆกันเป็นหมู่คณะ ทั้งอิหม่ามและมะอมูม ด้วยเสียงดัง หลังจากละหมาด ซึ่งไม่มีแบบอย่างจากสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ และขอถามคุณ อับดุอาซิ บินบาน ว่า คุณสังกัดมัซฮับชาฟิอีไม่ใช่หรือ ทำไมจึงไม่ศึกษาให้ดี
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
13/7/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
13/7/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น