วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วาทกรรมสัมปทานยี่ห้ออะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


วาทกรรมสัมปทานยี่ห้ออะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ
รักน่ะ กูเกิ้ล
12 กรกฎาคม เวลา 14:20 น.
อิหม่าม อัลฮาฟิซ มุรตาฏอ อัซซะบีดีย์ อัลฮานาฟีย์ได้กล่าวไว้
เมื่อถูกกล่าวว่า อะลิซซุนนะห์ วัลญามาอะห์ เป้าหมายของพวกเขาคือ กลุ่มอาชาอิเราะห์ แต่มาตูรีดียะห์
@@@@
ชี้แจง
การตะอัศศุบมัซฮับทางด้านความเชื่อจนเลยเถิด ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็น คือ ใช้ความรู้สึก ความคลั่งใคล้มัซฮับที่ตนสังกัดจนเลยเถิด จนมองว่า มัซฮับของตนคือ มาตรฐานการันตีความถูกต้อง และมัซฮับของตนเท่านั้นที่เป็นเครื่องหมายของอิสลาม เป็นต้น
คำพูดต่อไปนี้คือ สิ่งที่ผู้สังกัดมัซฮับอาชาอิเราะฮยุคหลังที่สุดโต่งและตะอัศศุบมักจะนำมาเป็นข้ออ้างบ่อยครั้ง ว่าตนเท่านั้น คือ อะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮคือ
คำพูดของอัซซะบีดีย์(ร.ฮ)ที่ว่า
إذا أطلق أهل السنة والجماعة فالمراد بهم الأشاعرة والماتريدية
เมื่อถูกกล่าวถึงคำว่าอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ พวกเขาหมายถึง อัลอะชาอิเราะฮและอัลมาตุรีดียะฮ -อิตติหาฟอัซซาดะติลมุตตะกีน 2/6
.......
ข้างต้นกลายเป็น บทบัญญัติที่อาชาอิเราะฮเอามาตัดสินว่า "อะฮลุสสุนนะฮฯ หมายถึงพวกตน -นะอูซุบิลละฮ
การอ้างคำพูดข้างต้น ไม่ใช่เฉพาะ ผู้ใช้นามแฝงว่า รักน่ะ กูเกิ้ล ซึ่งระบุในไทม์ไลน์ว่า เป็นศิษย์เก่ามหาลัยอัลอัซฮัร แล้วยังมี อาจารย์แกนนำอาชาอิเราะคนดังเจ้าของหนังสือ หลักอะกีดะฮ์แนวทางสะลัฟระหว่างอัลอะชาอิเราะฮ์กับวะฮฺฮาบียะฮ์ หน้า 20-21 ซึ่งเป็นตำราชงข้อมูลโจมตี วะฮบีย์ โดย อาจารย์ผู้เขียนหนังสือโจมตีวะฮบีย์ข้างต้น อ้างว่า
ท่านอิมามอัลมุรตะฎอ อัซซะบีดีย์ อัลฮุซัยนีย์(ฮ.ศ 1145 -1205) ได้กล่าวว่า
إِذا أُطْلِقَ أَهْلُ السُنَّةِ وَالْجًمَاعَةِ فَالْمُرادُ بِهِمْ الأَشَاعِرَةُ والْمَاتُرِدِيْةُ
"เมื่อถูกกล่าวว่าอะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ เป้าหมายของพวกเขาคืออัลอะชาอิเราะฮ์และอัลมะตูรีดียะฮ์" หนังสืออิตฮาฟุลมุตตะกีน : 2/6ในภาพอาจจะมี ข้อความ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ผู้เขียน เอาอะไรมาวัดความเป็นอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ เอาความเห็นหรือเอาหลักฐานมาพิสูจน์ และในประเด็นนี้ เคยมีการอ้างคำพูดของอัสสะฟารีนีย์ ในเว็บไซด์ซุนนะฮสะติวเด้น ว่า
ท่านอิมาม มุฮัมมัด บิน อะหฺมัด อัซซัฟฟารีนีย์ ปราชญ์มัซฮับหัมบาลีย์ กล่าวว่า
أهل السنة والجماعة ثلاث فرق : الأثرية : وإمامهم أحمد بن حنبل ، والأشعرية : وإمامهم أبو الحسن الأشعري ، والماتريدية : وإمامهم أبو منصور الماتريدي
ท่านอิมาม มุฮัมมัด บิน อะหฺมัด อัซซัฟฟารีนีย์ ปราชญ์มัซฮับหัมบาลีย์ กล่าวว่า
อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นั้น มีอยู่ 3 กลุ่ม
1. กลุ่ม الأثرية (อัล-อะษะรียะฮ์)(คือกลุ่มอะฮ์ลุลหะดิษ) แกนนำของพวกเขา คืออิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล
2. กลุ่ม الأشعرية (อัล-อัชอะรียะฮ์) แกนนำของพวกเขา คือ อิมาม อบู อัลหะซัน อัลอัชอะรีย์
3. กลุ่ม الماتريدية(อัล-มะตูรีดียะฮ์) แกนนำของพวกเขา คืออิมาม อบู อัลมันซูร อัลมุตูรีดีย์(ร.ฮ.) (ดู หนังสือ ละมาเมี๊ยะอฺ อัลอันวาร อัลบะฮียะฮ์ หน้า 73)
………………………….
เช็ค สุลัยมาน บิน สะฮมาน(ฮ.ศ 1349) คัดค้านคำพูดของ อัสสะฟารินีย์ ในหนังสือ ละวามิอุลอันวาร ที่บอกว่า อาชาอิเราะฮ และอัลมาตุรีดียะฮ เป็นกลุ่มที่ปลอดภัย หมายถึง กลุ่มอะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮว่า
هذا مصانعة من المصنف رحمه الله تعالى في إدخاله الأشعرية والماتريدية في أهل السنة والجماعة، فكيف يكون من أهل السنة والجماعة من لا يثبت علو الرب سبحانه فوق سماواته، واستواءه على عرشه ويقول: حروف القرآن مخلوقة، وإن الله لا يتكلم بحرف وصوت، ولا يثبت رؤية المؤمنين ربهم في الجنة بأبصارهم
นี่คือ การประจบประแจง จากผู้เรียบเรียง (ร.ฮ) ในการที่เขาใส่ อัลอัชอะรียะฮ และอัลมาตุรีดียะฮ ให้เข้าอยู่ใน อะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ ,จะเป็นส่วนหนึ่งจากอะฮลุสสุนะฮวัลญะมาอะฮ ได้อย่างไร ผู้ซึ่ง ไม่ยืนยัน การอยู่เบื้องสูงของพระเจ้า (ซ.บ) เหนือบรรดาฟากฟ้าของพระองค์ และการสถิตอยู่ของพระองค์ บน อะรัชของพระองค์และเขากล่าวว่า บรรดาอักษรของอัลกุรอ่าน คือมัคลูค ,แท้จริงอัลลอฮไม่ได้ตรัสด้วยอักษรและเสียง และไม่รับรอง/ยืนยัน บรรดาผู้ศรัทธาในสวรรค์ เห็นพระเจ้าของพวกเขาด้วยตาของพวกเขา .....
ดู หาชียะฮ ละวามิอุลอันวารอัลบะฮียะฮ 1/73
........
สรุป ชัยค์ สลัยมาน บอกว่า คนที่ ไม่ยืนยัน การอยู่เบื้องสูงของพระเจ้า (ซ.บ) เหนือบรรดาฟากฟ้าของพระองค์ และการสถิตอยู่ของพระองค์ บน อะรัชของพระองค์ ของพระองค์ จะเป็นส่วนหนึ่งจากอะฮลุสสุนะฮวัลญะมาอะฮ ได้อย่างไร 
และท่าน ชัยค์สุลัยมาน ได้ระบุ คำพูดของชัยค์ อับดุลลอฮ อัลบาบฏีน (ฮ.ศ 1282) ได้คัดค้านคำพูดของอัสสะฟารีนีย์ว่า
"تقسيم أهل السنة إلى ثلاث فرق فيه نظر؛ فالحق الذي لا ريب فيه أن أهل السنة فرقة واحدة، وهي الفرقة الناجية التي بينها النبي صلى الله عليه وسلم حين سئل عنها بقوله: "هي الجماعة"، وفي رواية: "من كان على مثل ما أنا عليه اليوم وأصحابي"، أو "من كان على ما أنا عليه وأصحابي". قال: وبهذا عرف أنهم المجتمعون على ما كان عليه النبي صلى الله عليه وسلم وأصحابه ولا يكونون سوى فرقة واحدة
การแบ่ง อะฮลุสสุนนะฮ เป็น 3 จำพวกนั้น ต้องพิจารณา ในมัน เพราะความจริง ที่ไม่มีการสงสัยใดๆคือ แท้จริงอะฮลุสสุนนะฮนั้น คือ กลุ่มเดียว และมันคือกลุ่มที่ปลอดภัย ที่ท่านนบี ศอ็ลฯ ได้อธิบายมันเอาไว้ เมื่อท่านถูกถาม ด้วยการตอบว่า “(มันคืออัลญะมาอะฮ) และ ในรายงานหนึ่ง ว่า(คือผู้ที่อยู่บนสิ่งที่เหมือนกับฉันและบรรดาสาวกของฉัน ได้ยืนหยัดอยู่บนมัน ณ วันนี้) หรือสำนวนที่ว่า( ผู้ที่อยู่บนสิ่งที่ฉันและบรรดาสาวกของฉัน ได้ยืนหยัดอยู่บนมัน) เขากล่าวว่า ด้วยหลักฐานนี้ ได้เป็นที่รู้จักว่า แท้จริงพวกเขา(อัลญะมาอะฮ)ได้ลงมติบน สิ่ง(แนวทาง)ที่นบี ศอ็ลฯ และบรรดาสาวกของท่านได้ยืนหยัดอยู่บนมัน และเขาจะไม่เป็น(กลุ่มใดๆ)นอกจากกลุ่มเดียวเท่านั้น - ดู หาชียะฮละวามิอุลอันวารอัลบะฮียะฮ 1/73

 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
การอ้างว่า กลุ่มของต้นเป็นอะฮลุสุนนะฮวัลญะมาอะฮ แท้หรือปลอม ต้องมีหลักฐานมายืนยังไม่ใช่วาทกรรมที่มาจากความเห็น
อิหมามอบูนัศริน อัสสัจญซีย์ กล่าวว่า
فكل مدع للسنة يجب أن يطالب بالنقل الصحيح بما يقوله، فإن أتى بذلك علم صدقه، وقبل قوله، وإن لم يتمكن من نقل ما يقوله عن السلف، علم أنه محدث زائغ، وأنه لا يستحق أن يصغى إليه أو ينظر في قوله،..
ทุกๆผู้ที่อ้าง อัสสุนนะฮนั้น จำเป็นจะต้องหารายงาน(ที่เป็นตัวบท)ที่เศาะเฮียะ มายืนยันด้วยสิ่งที่เขากล่าวมัน ดังนั้น ถ้าเขานำดังกล่าวนั้นมาได้ ความสัจจริงของเขาจะถูกรู้และคำกล่าวของเขา จะถูกยอมรับ และถ้าเขาไม่สามารถ เอารายงานจากสะลัฟ มายืนยันสิ่งที่เขากล่าวมัน ก็จะถูกรู้ว่า แท้จริงเขาเป็นผู้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ที่เป็นผู้เบี่ยงเบน(จากความถูกต้อง)และแท้จริงไม่สมควร ที่จะเอนเอียงไปยังเขาผู้นี้ และไม่สมควรที่จะพิจารณาคำกล่าวของเขา ....อัรรอ็ดอะลามัน อังกะรอ็นหัรฟิวัศเศาตฺ หน้า 11
อิหม่ามอัลบัรบะฮารีย(ร.ฮ)ปราชญ์สะลัฟ กล่าวว่า
والسنة ما سنه رسول الله صلى الله عليه وسلم والجماعة ما اجتمع عليه أصحاب رسول الله صلى الله عليه وسلم في خلافة أبي بكر وعمر وعثمان
อัสสุนนะฮ คือ สิ่งที่รซูลลอฮ ศอ็ลฯได้กำหนดมันให้เป็นแบบอย่าง และอัลญะมาอะฮคือ สิ่งที่บรรดาสาวกของท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ในยุคเคาะลิฟะฮอบูบักรฺ,อุมัร และอุษมานได้รวมกันอยู่บนมัน - ชัรหุอัสสุนนะฮหน้า 45
..............
จากที่กล่าววมาทั้งหมดนี้ ผู้อ่านสามารถพิจารณาได้ว่า ใครคืออะฮลุสสุนนะฮวัลญะมาอะฮ ใครคือ ผู้แอบอ้างสุนนะฮวัลญะมาอะฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
14/7/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น