
เมื่อเขาดูถูกว่าวะฮบีย์เอาหะดิษเฎาะอีฟมาเป็นหลักฐาน
ราชสีห์ ผู้ภักดีของแผ่นดิน
10 ชม.
รู้ไหมวาฮาบีทำไมจำเป็นต้องเรียนวิชา มุสตอละฮุ้ลหะดีษ (หลักพิจารณาอัลหะดีษ)จะได้ไม่เอาฮาดิษดออีฟเป็นหลักฐานเรื่องอากีดะ
10 ชม.
รู้ไหมวาฮาบีทำไมจำเป็นต้องเรียนวิชา มุสตอละฮุ้ลหะดีษ (หลักพิจารณาอัลหะดีษ)จะได้ไม่เอาฮาดิษดออีฟเป็นหลักฐานเรื่องอากีดะ
@@@
ชี้แจง
ข้อกล่าวหาข้างต้น ล้วนแล้วแต่ย้อนศรไปหากลุ่มอาชาอิเราะฮ ทั้งนั้น ขอยกตัวอย่างอาชาอิเราะฮเอาหลักฐานเฎาะอีฟมาเป็นหลักฐานเรื่องอะกีดะฮสักหนึ่งตัวอย่างคือ
ข้อกล่าวหาข้างต้น ล้วนแล้วแต่ย้อนศรไปหากลุ่มอาชาอิเราะฮ ทั้งนั้น ขอยกตัวอย่างอาชาอิเราะฮเอาหลักฐานเฎาะอีฟมาเป็นหลักฐานเรื่องอะกีดะฮสักหนึ่งตัวอย่างคือ
ในหนังสือ อะกีดะฮแนวทางสะลัฟระหว่างอัลอะชาอิเราะฮกับวะฮบีย์ หน้า 77 -78 ของ แกนนำอาชาอิเราะฮเมืองไทยท่านหนึ่ง ได้อ้างหะดิษเฎาะอีฟต่อไปนี้ เป็นหลักฐานว่า สะลัฟทำการตีความ(ตะวีล) คือหะดิษที่ว่า
ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ กล่าวรายงานไว้ในหะดิษหนึ่ง ความว่า
.لو أنكم دليتم بحبل إلى الأرض السفلى لهبط على الله ، ثم قرأ ( هو الأول والآخر والظاهر والباطن وهو بكل شيء عليم
."หากแมันพวกท่านได้หย่อนเชือกหนึ่งลงมายังแผ่นดินชั้นล่างสุด แน่นอนมันก็จะตกบนอัลเลาะฮ์ หลังจากนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ได้อ่านอายะฮ์ที่ว่า "พระองค์ทรงเป็นองค์แรก พระองค์ทรงเป็นองค์สุดท้าย พระองค์ทรงเป็นภายนอก และพระองค์ทรงเป็นภายใน" (อัล-หะดีด 3)
แล้วอาจารย์เจ้าหนังสือ อ้างว่า ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ กล่าวว่าต่อไปว่า
وفسر بعض أهل العلم هذا الحديث فقالوا : إنما هبط على علم الله وقدرته وسلطانه ، وعلم الله وقدرته وسلطانه في كل مكان وهو على العرش كما وصف في كتابه
และนักปราชญ์(สะลัฟ)ส่วนหนึ่งได้อธิบายหะดิษนี้ โดยพวกเขากล่าวว่า "แท้จริงเชือกจะตกลงมาบนความรู้ , อานุภาพ , และอำนาจของอัลเลาะฮ์ และความรู้ ,อานุภาพ , และอำนาจของอัลเลาะฮ์นั้นอยู่ในทุกสถานที่ พระองค์สูงส่งเหนืออะรัชตามที่พระองค์ทรงพรรณนาไว้ในคำภีร์ของพระองค์"
แล้วอาจารย์เจ้าของหนังสือ อธิบายว่า
ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ เป็นอิมามท่านหนึ่งจากสะละฟุศศอลิห์ เป็นหนึ่งจากเจ้าของหนังสือสุนันทั้งหก ซึ่งท่านได้ทำการยอมรับในสายรายงานนี้แล้วทำการตีความ ตะวีล ดังที่ท่านได้นำเสนอข้างต้น ยิ่งกว่านั้นท่านอัตติรมีซ๊ย์เองยังถ่ายทอดการตีความนี้จากบรรดานักปราชญ์สะลัฟบางส่วนอีกด้วย..
ท่านอิมามอัตติรมีซีย์ เป็นอิมามท่านหนึ่งจากสะละฟุศศอลิห์ เป็นหนึ่งจากเจ้าของหนังสือสุนันทั้งหก ซึ่งท่านได้ทำการยอมรับในสายรายงานนี้แล้วทำการตีความ ตะวีล ดังที่ท่านได้นำเสนอข้างต้น ยิ่งกว่านั้นท่านอัตติรมีซ๊ย์เองยังถ่ายทอดการตีความนี้จากบรรดานักปราชญ์สะลัฟบางส่วนอีกด้วย..
วิจารณ์
1. อาจารย์อาชาอิเราะ ได้ตัดข้อความที่อิหม่ามติรมิซีย์ได้ระบุสถานะหะดิษคือ อิหม่ามติรมิซีย์กล่าวว่า
1. อาจารย์อาชาอิเราะ ได้ตัดข้อความที่อิหม่ามติรมิซีย์ได้ระบุสถานะหะดิษคือ อิหม่ามติรมิซีย์กล่าวว่า
قال أبو عيسى هذا حديث غريب من هذا الوجه قال ويروى عن أيوب ويونس بن عبيد وعلي بن زيد قالوا لم يسمع الحسن من أبي هريرة
อบูอีซา(หมายถึง อิหม่ามอัตติรมิซีย์ )กล่าวว่า หะดิษนี้เฆาะรีบ จากสายรายงานนี้ ,เขากล่าวว่า มันถูกรายงานจาก อัยยูบ บิน อุบัยดฺ และอาลี บิน เซด พวกเขากล่าวว่า “ อัลหะซัน ไม่ได้ยิน (หะดิษนี้)จากอบีฮุรัยเราะฮ
............. - ดู หนังสือ ตั๊วะฟะตุลอัลอะห์วะซีย์ อธิบายสุนันอัตติรมีซีย์ 9/187 ตีพิมพ์ กุรตุบะ
และอิบนุกะษีร ระบุคำพูดข้างต้นในตัฟสีรของท่าน -ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร เล่ม 13 หน้า 404 อธิบายอายะฮที่ 3 ซูเราะฮอัลหะดิด
อบูอีซา(หมายถึง อิหม่ามอัตติรมิซีย์ )กล่าวว่า หะดิษนี้เฆาะรีบ จากสายรายงานนี้ ,เขากล่าวว่า มันถูกรายงานจาก อัยยูบ บิน อุบัยดฺ และอาลี บิน เซด พวกเขากล่าวว่า “ อัลหะซัน ไม่ได้ยิน (หะดิษนี้)จากอบีฮุรัยเราะฮ
............. - ดู หนังสือ ตั๊วะฟะตุลอัลอะห์วะซีย์ อธิบายสุนันอัตติรมีซีย์ 9/187 ตีพิมพ์ กุรตุบะ
และอิบนุกะษีร ระบุคำพูดข้างต้นในตัฟสีรของท่าน -ดู ตัฟสีรอิบนุกะษีร เล่ม 13 หน้า 404 อธิบายอายะฮที่ 3 ซูเราะฮอัลหะดิด

2. คำว่า
وفسر بعض أهل العلم هذا الحديث
และบางส่วนของนักวิชาการได้อธิบาย
...
คำว่าพวกเขาอธิบาย ไม่ใช่การตีความ
3. อาจารย์อาชาอิเราะ แปลประโยคที่ว่า
وهو على العرش كما وصف في كتابه
พระองค์สูงส่งเหนืออะรัชตามที่พระองค์ทรงพรรณนาไว้ในคำภีร์ของพระองค์"
….
ข้างต้น เป็นการแปลบิดเบือน ความหมายจริงคือ และพระองค์ ทรงอยู่เหนืออะรัช ดังสิ่งที่ทรงพรรณาไว้ในคัมภีรของพระองค์
وفسر بعض أهل العلم هذا الحديث
และบางส่วนของนักวิชาการได้อธิบาย
...
คำว่าพวกเขาอธิบาย ไม่ใช่การตีความ
3. อาจารย์อาชาอิเราะ แปลประโยคที่ว่า
وهو على العرش كما وصف في كتابه
พระองค์สูงส่งเหนืออะรัชตามที่พระองค์ทรงพรรณนาไว้ในคำภีร์ของพระองค์"
….
ข้างต้น เป็นการแปลบิดเบือน ความหมายจริงคือ และพระองค์ ทรงอยู่เหนืออะรัช ดังสิ่งที่ทรงพรรณาไว้ในคัมภีรของพระองค์
3. การอ้างว่าอิหม่ามอัตติรมิซีย์ สนับสนุนการตีความเป็นการอ้างเท็จ เพราะอิหม่ามอัตติรมิซีย์ มีทัศนะไม่ตีความ ดังที่ท่านกล่าวว่า
وَقَدْ قَالَ غَيْرُ وَاحِدٍ مِنْ أَهْلِ الْعِلْمِ فِي هَذَا الْحَدِيثِ وَمَا يُشْبِهُ هَذَا مِنْ الرِّوَايَاتِ مِنْ الصِّفَاتِ وَنُزُولِ الرَّبِّ تَبَارَكَ وَتَعَالَى كُلَّ لَيْلَةٍ إِلَى السَّمَاءِ الدُّنْيَا قَالُوا قَدْ تَثْبُتُ الرِّوَايَاتُ فِي هَذَا وَيُؤْمَنُ بِهَا وَلَا يُتَوَهَّمُ وَلَا يُقَالُ كَيْفَ هَكَذَا رُوِيَ عَنْ مَالِكٍ وَسُفْيَانَ بْنِ عُيَيْنَةَ وَعَبْدِ اللَّهِ بْنِ الْمُبَارَكِ أَنَّهُمْ قَالُوا فِي هَذِهِ الْأَحَادِيثِ أَمِرُّوهَا بِلَا كَيْفٍ وَهَكَذَا قَوْلُ أَهْلِ الْعِلْمِ مِنْ أَهْلِ السُّنَّةِ وَالْجَمَاعَةِ
หลายคนจากในหมู่นักปราชญ์ผู้ทรงความรู้ได้กล่าว เกี่ยวกับหะดีษนี้และหะดีษต่างๆที่คล้ายคลึงกัน อย่างเช่น(หะดีษเกี่ยวกับ) คุณลักษณ์ต่างๆและการลงมาของพระผู้อภิบาลผู้ทรงสูงส่งในทุกค่ำคืนสู่ฟากฟ้าชั้นดุนยา โดยที่บรรดาปราชญ์เหล่านั้นได้กล่าวว่า บรรดารายงานในเรื่องนี้ เป็นที่แน่นอน และจะถูกศรัทธา จะไม่ถูกนึกมโนภาพ และจะไม่ถูกกล่าวว่าเป็นอย่างไร เรื่องราวทำนองนี้ได้ถูกรายงานมาจากท่านอิมามมาลิกบินอะนัส,ท่านซุฟยานอัษเษารีย์,ท่านอิบนุอุยัยนะฮฺ, และท่านอับดุลลอฮฺอิบนุอัลมุบาร็อค พวกเขากล่าวเกี่ยวกับบรรดาหะดีษเหล่านี้ว่า “ปล่อยมันให้ผ่านไปโดยไม่ถามว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร และ ในทำนองนี้ คือ คำพูดของนักวิชาการ จากอะฮลุสสุนนะฮ วัลญะมาอะฮ
-หนังสือ สุนันอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้าที่ 50-51
.............
จะเห็นได้ว่า อิหม่ามอัตติรมิซีย์ยืนยันว่าสะลัฟไม่ตีความ แต่ ปล่อยมันให้ผ่านไปโดยไม่ต้องพรรณนาว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร
สำหรับหะดิษที่ อ.อาชาอิเราะฮอ้างคือ
.............
จะเห็นได้ว่า อิหม่ามอัตติรมิซีย์ยืนยันว่าสะลัฟไม่ตีความ แต่ ปล่อยมันให้ผ่านไปโดยไม่ต้องพรรณนาว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร
สำหรับหะดิษที่ อ.อาชาอิเราะฮอ้างคือ
لَوْ أَنَّكُمْ دَلَّيْتُمْ بِحَبْلٍ إِلَى الْأَرْضِ السُّفْلَى لَهَبَطَ عَلَى اللَّهِ
หากแมันพวกท่านได้หย่อนเชือกหนึ่งลงมายังแผ่นดินชั้นล่างสุด แน่นอนมันก็จะตกบนอัลเลาะฮ์
............
ขอตอบว่า
หะดิษข้างต้น เฏาะอีฟ แต่ อ.อาชาอิเราะฮผู้นี้ ตัดข้อความวิจารณ์ของอิหม่ามออกไปท่อนหนึ่งคือ
قَالَ أَبُو عِيسَى هَذَا حَدِيثٌ غَرِيبٌ مِنْ هَذَا الْوَجْهِ قَالَ وَيُرْوَى عَنْ أَيُّوبَ وَيُونُسَ بْنِ عُبَيْدٍ وَعَلِيِّ بْنِ زَيْدٍ قَالُوا لَمْ يَسْمَعْ الْحَسَنُ مِنْ أَبِي هُرَيْرَةَ
อบูอีซา(หมายถึง อิหม่ามอัตติรมิซีย์ )กล่าวว่า หะดิษนี้เฆาะรีบ จากสายรายงานนี้ ,เขากล่าวว่า มันถูกรายงานจาก อัยยูบ บิน อุบัยดฺ และอาลี บิน เซด พวกเขากล่าวว่า “ อัลหะซัน ไม่ได้ยิน (หะดิษนี้)จากอบีฮุรัยเราะฮ
.............
นี่คือ สายรายงาน
حَدَّثَنَا عَبْدُ بْنُ حُمَيْدٍ وَغَيْرُ وَاحِدٍ الْمَعْنَى وَاحِدٌ قَالُوا حَدَّثَنَا يُونُسُ بْنُ مُحَمَّدٍ حَدَّثَنَا شَيْبَانُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ عَنْ قَتَادَةَ قَالَ حَدَّثَ الْحَسَنُ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ
....
แสดงว่า ได้มีการได้หมกเม็ดส่วนที่วิจารณ์ความบกพร่องหะดิษเอาไว้
อิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ กล่าวว่า
.............
นี่คือ สายรายงาน
حَدَّثَنَا عَبْدُ بْنُ حُمَيْدٍ وَغَيْرُ وَاحِدٍ الْمَعْنَى وَاحِدٌ قَالُوا حَدَّثَنَا يُونُسُ بْنُ مُحَمَّدٍ حَدَّثَنَا شَيْبَانُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ عَنْ قَتَادَةَ قَالَ حَدَّثَ الْحَسَنُ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ
....
แสดงว่า ได้มีการได้หมกเม็ดส่วนที่วิจารณ์ความบกพร่องหะดิษเอาไว้
อิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ กล่าวว่า
"وَفِي رِوَايَةِ الْحَسَنِ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ انْقِطَاعٌ، وَلَا ثَبَتَ سَمَاعُهُ مِنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، وَرُوِيَ مِنْ وَجْهٍ آَخَرٍ مُنْقَطِعٍ عَنْ أَبِي ذَرٍّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ مَرْفُوعًا"
และในรายงานของอัลหะซัน จากอบีฮุรัยเราะฮ (ร.ฎ) นั้น “ขาดตอน” และ การได้ยินของเขา จากอบีฮุรัยเราะฮนั้น ไม่แน่นอน และ ได้ถูกรายงานจากสายรายงานอื่น เป็นหะดิษมุงเกาะเฏียะ (หะดิษสายรายงานขาดตอน) จากอบีซัรริน (ร.ฎ) โดยเป็นหะดิษมัรฟัวะ (คือ หะดิษมัรฟัวะ โดยสายรายงานของมันขาดตอน-ผู้แปล) – ดู อัลอัสมาอวัสสิฟาต 2/287-289 หะดิษหมายเลข 849

………
จากที่นำเสนอข้างต้นไม่ได้เจตนาจะดิสเครดิตใคร แต่ต้องการให้ได้เห็นตัวอย่างข้อเท็จจริงว่า กลุ่มอาชาอิเราะฮบางกลุ่มที่กล่าวหาและดูถูก ว่าวะฮบีย์ไม่ต้องเรียนวิชาหะดิษ เพราะยึดหลักฐานเฎาะอีฟนั้น ตกลง ความจริงที่ปรากฏฝ่ายใหนกันแน่อ้างหะดิษเฎาะอีฟเป็นหลักฐาน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
6/7/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น