
อาชาอิเราะฮยุคหลังกับตาบอดคลำช้าง
ตาบอดคลำทาง หมายถึงคนที่รู้อะไรด้านเดียวหรือนัยเดียวแล้วเข้าใจว่าสิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น
เพราะตาบอด แต่ละคนจึงรู้จักช้างเป็นส่วนๆ ไม่เห็นช้างทั้งตัว คนที่คลำเจอขาก็ว่าช้างเหมือนเสา คนคลำเจอตัวก็ว่าช้างเหมือนกำแพง คนคลำเจอหูก็ว่าช้างเหมือนพัด คนคลำเจอหางก็ว่าช้างเหมือนเชือก แล้วก็ทะเลาะกันใหญ่ เพราะต่างยึดมั่นในการรู้แบบแยกส่วนของแต่ละคนๆ การรู้แบบแยกส่วนทำให้บีบคั้นและเข้าไปสู่ความขัดแย้ง ถ้าตาไม่บอดและเห็นทั้งหมด คือช้างทั้งตัว ก็จะเป็นอิสระ เพราะการรู้ทั้งหมดไม่มีอะไรจะขัดแย้งกัน เพราะแต่ละส่วนก็เป็นของช้างตัวเดียวกัน
คือรู้อะไรรู้ไม่จริง แต่สรุปจากการคาดเดาเป็นองค์ความรู้ และที่อันตรายคือ เรื่องศาสนาโดยเฉพาะอะกีดะฮ
เพราะตาบอด แต่ละคนจึงรู้จักช้างเป็นส่วนๆ ไม่เห็นช้างทั้งตัว คนที่คลำเจอขาก็ว่าช้างเหมือนเสา คนคลำเจอตัวก็ว่าช้างเหมือนกำแพง คนคลำเจอหูก็ว่าช้างเหมือนพัด คนคลำเจอหางก็ว่าช้างเหมือนเชือก แล้วก็ทะเลาะกันใหญ่ เพราะต่างยึดมั่นในการรู้แบบแยกส่วนของแต่ละคนๆ การรู้แบบแยกส่วนทำให้บีบคั้นและเข้าไปสู่ความขัดแย้ง ถ้าตาไม่บอดและเห็นทั้งหมด คือช้างทั้งตัว ก็จะเป็นอิสระ เพราะการรู้ทั้งหมดไม่มีอะไรจะขัดแย้งกัน เพราะแต่ละส่วนก็เป็นของช้างตัวเดียวกัน
คือรู้อะไรรู้ไม่จริง แต่สรุปจากการคาดเดาเป็นองค์ความรู้ และที่อันตรายคือ เรื่องศาสนาโดยเฉพาะอะกีดะฮ
อาชาอิเราะฮยุคหลัง บางส่วน พอใครแปลความหมายอายาตหรือหะดิษสิฟาต ก็ รีบหุกกุมว่า เป็นพวกมุชับบะฮะฮ(ผู้เปรียบอัลลอฮกับมัคลูค)และมุญัสสิมะฮ (ผู้ให้รูปร่างแก่อัลลอฮ)
นี่ก็เป็นตัวอย่างของตาบอดคลำช้าง ยังแยกไม่ออกระหว่างการแปลความหมายในทางภาษา กับ การอธิบายรูปแบบวิธีการคุณลักษณะ(التكييف )
อิหมามมาลิก(ร.ฮ)กล่าวว่า
لاستواء معلومٌ ، والكيف مجهولٌ ، والإيمان بـــه واجبٌ ، والسؤال عنه بدعةٌ
อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และกาศรัทธาด้วยมันนั้น วาญิบ และการถามจากมัน คือบิดอะฮ
..........
ดูที่มา
رواه اللالكائي في " شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة " (3/441) والبيهقي في "الأسماء والصفات " (ص 408) وصححه الذهبي وشيخ الإسلام والحافظ ابن حجر .
....................
..........
ดูที่มา
رواه اللالكائي في " شرح أصول اعتقاد أهل السنة والجماعة " (3/441) والبيهقي في "الأسماء والصفات " (ص 408) وصححه الذهبي وشيخ الإسلام والحافظ ابن حجر .
....................
คำว่า غير مجهول ความหมายเดียวกับคำว่า معلوم คือ เป็นที่รู้กัน หมายความว่า ความหมายของอัลอิสติวาอฺเป็นที่รู้กันในทางภาษา
ดังที่อิหม่ามอัลกุรฎุบีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
ดังที่อิหม่ามอัลกุรฎุบีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
قال مالك رحمه الله : الاستواء معلوم - يعني في اللغة - والكيف مجهول ، والسؤال عن هذا بدعة
มาลิก(ร.ฮ) ได้กล่าวว่า อิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน หมายถึง ในภาษา และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และการถามเกี่ยวจากนี้ คือ บิดอะฮ - ดูตัฟสีรอัลกุรฏุบีย์ 7/219
มาลิก(ร.ฮ) ได้กล่าวว่า อิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน หมายถึง ในภาษา และรูปแบบวิธีการนั้น ถูกไม่รู้(ไม่เป็นที่รู้กัน) และการถามเกี่ยวจากนี้ คือ บิดอะฮ - ดูตัฟสีรอัลกุรฏุบีย์ 7/219
อบูบักร์ อิบนุอัลอะเราะบีย์ อัลมะลิกีย์ (ฮ.ศ 543)
ท่านได้อธิบายหะดิษสิฟัตในสุนันติรมิซีย์ว่า
ท่านได้อธิบายหะดิษสิฟัตในสุนันติรมิซีย์ว่า
ومذهب مالك رحمه الله أن كل حديث منها معلوم المعنى، ولذلك قال للذي سأله: "الاستواء معلوم، والكيفية مجهولة
และแนวทางของมาลิก (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน) แท้จริงทุกหะดิษจากมัน(จากหะดิษที่ระบุเกี่ยวกับสิฟาต) ความหมาย เป็นที่รู้กัน และเพราะดังกล่าว เขาได้กล่าวแก่ผู้ที่ถามเขาว่า " อัลอิสติวาอฺนั้น เป็นที่รู้กัน และรูปแบบวิธีการนั้น ไม่เป็นที่รู้กัน - อาริเฎาะตุลอะหวะซีย์ 3/166
จึงถาม อาชาอิเราะฮว่า เมื่อความหมายคุณลักษณะอัลลอฮในทางภาษาเป็นที่รู้กัน จะเรียกว่า คลุมเครือ (متشابهات)ได้อย่างไร และเมื่อความหมายในทางภาษาเป็นที่รู้กัน ทำไมจึงแปลความหมายทางภาษาไม่ได้?
ขอเรียนว่า การยืนยันหรือรับรองสิฟัตอัลลอฮตามแนวทางสะลัฟคือ "รับรองความหมายในทางภาษาและมอบหมายรูปแบบวิธีการ(كيفية ) แต่ อาชาอิเราะฮ ยังหาข้อสรุปไม่ได้และหลงคิดไปว่า "ถ้าแปลความหมายกลายเป็นการตัชบีฮ(การเปรียบกับมัคลูค) นี่คือ เป็นตัวอย่างตาบอดคลำช้าง"
ขอเรียนว่า การยืนยันหรือรับรองสิฟัตอัลลอฮตามแนวทางสะลัฟคือ "รับรองความหมายในทางภาษาและมอบหมายรูปแบบวิธีการ(كيفية ) แต่ อาชาอิเราะฮ ยังหาข้อสรุปไม่ได้และหลงคิดไปว่า "ถ้าแปลความหมายกลายเป็นการตัชบีฮ(การเปรียบกับมัคลูค) นี่คือ เป็นตัวอย่างตาบอดคลำช้าง"
มาดูหลักการอิษบาตสิฟาตของท่าน วะเกียะ บิน อัลญะเราะห (ฮ.ศ 196) ดังนี้
وَقَالَ أَحْمَدُ بْنُ إِبْرَاهِيمَ الدَّوْرَقِيُّ : سَمِعْتُ وَكِيعًا يَقُولُ : نُسَلِّمُ هَذِهِ الْأَحَادِيثَ كَمَا جَاءَتْ ، وَلَا نَقُولُ : كَيْفَ كَذَا ؟ وَلَا لِمَ كَذَا ؟ يَعْنِي مِثْلَ حَدِيثِ : يَحْمِلُ السَّمَاوَاتِ عَلَى إِصْبَعٍ
และอะหมัด บิน อิบรอฮีม อัดเดาเราะกีย์ กล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้ยิน วาเกียะ บิน อัลญะเราะหฺ กล่าวว่า "เรายอมรับบรรดาหะดิษเหล่านี้(หมายถึงหะดิษสิฟาต) ดังที่มันมีมา และเราจะไม่กล่าวว่า "ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น ? หมายถึง เหมือนกับหะดิษที่ว่า ทรงถือชั้นฟ้าทั้งหลายอยู่บนนิ้วหนึ่ง(ของพระองค์) - ดูสิยารเอียะลามอัลนุบะลาอฺ เล่ม 7 หน้า 166 ,อัสสิฟาต ของอิหม่ามอัดดารุกุฏนีย์ หน้า 41และ อัสสุนนะฮ ของอับดุลลอฮ บิน อะหมัด เล่ม 1 หน้า 276
อิบนุอับดิลบัร อัลมาลิกีย (ฮ.ศ 463) ได้อธิบายชัดเจนว่า
وَقَدْ عَقِلْنَا وَأَدْرَكْنَا بِحَوَاسِّنَا أَنَّ لَنَا أَرْوَاحًا فِي أَبْدَانِنَا ، وَلَا نَعْلَمُ كَيْفِيَّةَ ذَلِكَ وَلَيْسَ جَهْلُنَا بِكَيْفِيَّةِ الْأَرْوَاحِ يُوجِبُ أَنْ لَيْسَ لَنَا أَرْوَاحٌ ، وَكَذَلِكَ لَيْسَ جَهْلُنَا بِكَيْفِيَّةٍ عَلَى عَرْشِهِ يُوجِبُ أَنَّهُ لَيْسَ عَلَى عَرْشِهِ
แท้จริงเราเข้าใจ และรับรู้ด้วยอวัยวะสัมผัสของเรา ว่า เรามีชีวิต ในร่างกายของเรา และเราไม่รู้รูปแบบวิธีการ(كيفية )ของมัน(ว่าเป็นอย่างไร) และการที่เราไม่รู้ว่า รูปแบบของบรรดาชีวิตว่าเป็นอย่างไรนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีชีวิต และในทำนองเดียวกันนั้น การที่เราไม่รู้ว่ารูปแบบวิธีการ(อิสติวาอของพระองค์) บนอะรัชของพระองค์เป็นย่างไรนั้น ไม่ได้หมายความว่า พระองค์ไม่ได้อยู่บนอะรัชของพระองค์ - ดู อัตตัมฮีด เล่ม 7 หน้า 137
.....
สรุปคือ การที่เราไม่รู้ว่ารูปแบบของชีวิตของเรานั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้หมายความว่า "ชีวิตของเราไม่มี ในทำนองเดียวกัน การที่เราไม่รู้ว่าอัลลอฮ อยู่บนบัลลังค์อย่างไร ก็ไม่ได้หมายความว่า อัลลอฮไม่ได้อยู่บนอะรัชของพระองค์
.....

สรุปคือ การที่เราไม่รู้ว่ารูปแบบของชีวิตของเรานั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้หมายความว่า "ชีวิตของเราไม่มี ในทำนองเดียวกัน การที่เราไม่รู้ว่าอัลลอฮ อยู่บนบัลลังค์อย่างไร ก็ไม่ได้หมายความว่า อัลลอฮไม่ได้อยู่บนอะรัชของพระองค์
...........
เพราะฉะนั้น แนวทางสะลัฟ ยืนยันความหมายในทางภาษา โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไร หรือไม่อธิบายว่าเป็นอย่างไรและไม่เปรียบเทียบ ไม่ถือว่า เป็นการตัชบีฮ อย่างที่อาชาอิเราะฮบางส่วนยุคหลังมโนจริต คิดและเข้าใจไปเอง
เพราะฉะนั้น แนวทางสะลัฟ ยืนยันความหมายในทางภาษา โดยไม่ถามว่าเป็นอย่างไร หรือไม่อธิบายว่าเป็นอย่างไรและไม่เปรียบเทียบ ไม่ถือว่า เป็นการตัชบีฮ อย่างที่อาชาอิเราะฮบางส่วนยุคหลังมโนจริต คิดและเข้าใจไปเอง
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
31/7/60
31/7/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น