วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ความแตกต่างของแนวทางอะฮลุสสุนนะฮกับหัวโจกอะฮลุลบิดอะฮ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
ความแตกต่างของแนวทางอะฮลุสสุนนะฮกับหัวโจกอะฮลุลบิดอะฮ
อิบนุอะบิลอิซ อัลหะนะฟีย์(ร.ฮ) ได้กล่าวถึงสาเหตุของหัวโจกอะฮลุลบิดอะฮที่ไม่ยอมรับความจริงว่า
بَلْ كُلُّ فَرِيقٍ مِنْ أَرْبَابِ الْبِدَعِ يَعْرِضُ النُّصُوصَ عَلَى بِدْعَتِهِ ، وَمَا ظَنَّهُ مَعْقُولًا : فَمَا وَافَقَهُ قَالَ : إِنَّهُ مُحْكَمٌ ، وَقَبِلَهُ وَاحْتَجَّ بِهِ ! ! وَمَا خَالَفَهُ قَالَ : إِنَّهُ مُتَشَابِهٌ ، ثُمَّ رَدَّهُ ، وَسَمَّى رَدَّهُ تَفْوِيضًا ! أَوْ حَرَّفَهُ ، وَسَمَّى تَحْرِيفَهُ تَأْوِيلًا ! ! فَلِذَلِكَ اشْتَدَّ إِنْكَارُ أَهْلِ السُّنَّةِ عَلَيْهِمْ
แต่ในทางกลับกัน ทุกๆพวกจากบรรดาหัวโจกบิดอะฮ จะเสนอหลักฐานเพื่อรับรองบิดอะฮของเขา และสิ่งที่เขาเห็นว่า กินกับปัญญา ดังนั้น สิ่งใดที่สอดคล้องกับมัน(ความคิดเห็น) เขาก็กล่าวว่า แท้จริง มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจน และเขาก็รับรองและเอามันมาเป็นหลักฐาน และสิ่งใดที่ขัดกับมัน(ความคิดเห็น) เขาก็จะกล่าวว่า เป็นสิ่งที่คลุมเครือ หลังจากนั้นเขาก็ปฏิเสธ มัน และเขาเรียก การปฏิเสธมันว่า “ตัฟวีฏ”(ในวิชากะลาม คือ การปล่อยมันไว้ตามนั้น โดยไม่มีความเห็นใดๆ) หรือ เขาเปลียนความหมายมัน และเรียกการเปลี่ยนความหมายของมันว่า “ตะวีล”(การตีความ) ดังนั้น ด้วยเหตุดังกล่าวนั้น อะฮลุสสุนนะฮ(ชาวสุนนะฮ)จึงคัดค้านพวกเขาอย่างรุนแรง – ดูชัรหุอัฏเฏาะหาวียะฮ หน้า 500
...................
สรุปคือ
1.หัวโจกอะฮลุลบิดอะฮนั้น จะเสนอหลักฐานรับรองบิดอะฮและสิ่งที่เขาเห็นว่ากินกับปัญญา
2. หลักฐานใดที่กินกับปัญญาตามความเห็นของเขา เขาก็บอกว่าชัดเจน
3. หลักฐานใดที่ไม่กินกับปัญญาหรือความเห็น เขาก็บอกว่าหลักฐานนั้นคลุมเครือ และปฏิเสธมัน โดยเรียกมันว่า"ตัฟวีฎ (การมอบหมาย)
4. หลักฐานที่ไม่กินกับปัญญา หัวโจกบิดอะฮ จะมอบหมาย(ตัฟวีฎ) คือไม่ไปยุ่งกับความหมายโดยมอบหมายความหมายแก่อัลลอฮ หรือไม่ก็เปลี่ยนความหมายให้กินกับปัญญา ที่เขาเรียกว่า "ตะอวีล"(التأويل )
อิบนุอะบิลอิซ กล่าวถึงแนวทางอะฮลุสสุนนะฮว่า
وَطَرِيقُ أَهْلِ السُّنَّةِ : أَنْ لَا يَعْدِلُوا عَنِ النَّصِّ الصَّحِيحِ ، وَلَا يُعَارِضُوهُ بِمَعْقُولٍ ، وَلَا قَوْلِ فُلَانٍ ، كَمَا أَشَارَ إِلَيْهِ الشَّيْخُ رَحِمَهُ اللَّهُ . وَكَمَا قَالَ الْبُخَارِيُّ رَحِمَهُ اللَّهُ : سَمِعْتُ الْحُمَيْدِيَّ يَقُولُ : كُنَّا عِنْدَ الشَّافِعِيِّ رَحِمَهُ اللَّهُ ، فَأَتَاهُ رَجُلٌ فَسَأَلَهُ عَنْ مَسْأَلَةٍ ، فَقَالَ قَضَى فِيهَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَذَا وَكَذَا ، فَقَالَ الرَّجُلُ لِلشَّافِعِيِّ : مَا تَقُولُ أَنْتَ ؟ ! فَقَالَ : سُبْحَانَ اللَّهِ ! تَرَانِي فِي كَنِيسَةٍ ! تَرَانِي فِي بِيعَةٍ ! تَرَى عَلَى وَسَطِي زُنَّارًا ؟ ! أَقُولُ لَكَ : قَضَى رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَأَنْتَ تَقُولُ : مَا تَقُولُ أَنْتَ ؟ !
وَنَظَائِرُ ذَلِكَ فِي كَلَامِ السَّلَفِ كَثِيرٌ .
وَقَالَ تَعَالَى : وَمَا كَانَ لِمُؤْمِنٍ وَلَا مُؤْمِنَةٍ إِذَا قَضَى اللَّهُ وَرَسُولُهُ أَمْرًا أَنْ يَكُونَ لَهُمُ الْخِيَرَةُ مِنْ أَمْرِهِمْ [ الْأَحْزَابِ : 36 ] .
และแนวทางของอะฮลุลสุนนะฮ คือ พวกเขาจะไม่หันเหออกจากตัวบท(หลักฐาน)ที่เศาะเฮียะ และพวกเขาจะไม่คัดค้านมัน(คัดค้านหลักศอเฮียะ) ด้วยสิ่งที่เป็นเหตุผลทางปัญญา และจะไม่(คัดค้าน)ด้วยทัศนะคนนั้นคนนี้ ดังที่ชัยค์(หมายอืหม่ามอัฏฏอหาวีย) ร.ฮ ได้ ชี้แจงมันเอาไว้ และดังเช่น สิ่งที่ อัลบุคอรีย (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ยิน อัลหุมัยดีย์ กล่าวว่า “เราได้อยู่ กับ ชาฟิอี (ร.ฮ) แล้วได้มีชายคนหนึ่งได้ มาหาเขา(อิหม่ามชาฟิอี) แล้วถามเขาเกี่ยวกับประเด็นปัญหาหนึ่ง แล้ว อิหม่ามชาฟิอี กล่าวว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ตัดสิน ในประเด็นนั้น อย่างนั้น อย่างนี้ แล้วชายคนนั้น กล่าวแก่อิหม่ามชาฟิอีว่า “ ท่านมีทัศนะอย่างไร? อิหม่ามชาฟิอี กล่าวว่า “ซุบฮานัลลอฮ !! ท่านเห็นข้าพเจ้าอยู่ในวิหาร หรือ ?ท่านเห็นข้าพเจ้าอยู่ในโบสถ์หรือ ? ท่านเห็นที่เอวของข้าพเจ้ามีซันนาร(เข็มขัดที่บาทหลวงคริสต์ใช้) อย่างนั้นหรือ ,ข้าพเจ้ากล่าวกับท่านว่า รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ตัดสิน ท่านกลับมากล่าวว่า “ท่านมีทัศนะอย่างไร ?
(อิหม่ามอิบนุอะบิลอิซ กล่าวว่า) และบรรดาตัวอย่างในเรื่องดังกล่าวนั้นมีมากมาย ในบรรดาคำพูดของชาวสะลัฟ
อัลลอฮตาอาลสตรัสว่า
وَمَا كَانَ لِمُؤْمِنٍ وَلَا مُؤْمِنَةٍ إِذَا قَضَى اللَّهُ وَرَسُولُهُ أَمْرًا أَن يَكُونَ لَهُمُ الْخِيَرَةُ مِنْ أَمْرِهِمْ وَمَن يَعْصِ اللَّهَ وَرَسُولَهُ فَقَدْ ضَلَّ ضَلَالًا مُّبِينًا
ไม่บังควรแก่ผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิง เมื่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ได้กำหนดกิจการใดแล้ว สำหรับพวกเขาไม่มีทางเลือกในเรื่องของพวกเขา และผู้ใดไม่เชื่อฟังอัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์แล้ว แน่นอนเขาได้หลงผิดอย่างชัดแจ้ง- อัลอะหซาบ/36 - ชัรหอะกีดะฮ อัฏเฏาะหาวียะฮ หน้า 500
>>>>>>>>>>>>>>>
การหันเหออกจากหลักฐานหรือตัวบทที่เศาะเฮียะและคัดค้าน ด้วยเหตุผลทางปัญญาและด้วยความเห็นของคนนั้นคนนี้นั้น ไม่ใช่แนวทางอะฮลุสสุนนะฮ และ ไม่ใช่แนวทางของอิหม่ามชาฟิอี(ร.ฮ) อีกด้วย เพราะท่านอิหม่ามชาฟิอีแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่ท่านตอบด้วยสุนนะฮนบี ศอ็ลฯ แต่มีคนกลับมาถามว่า ท่านมีทัศนะอย่างไร คนยุคหลังบางส่วน พอเห็นหลักฐานตัวบทที่เศาะเฮียะ เกียวกับคุณลักษณะอัลลอฮ เขากลับบอกว่า นั้นไม่ใช่ความหมายที่ต้องการ จึงตีความตามเหตุผลทางปัญญา วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อ.อะสัน หมัดอะดั้ม
6/7/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น