


ละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอะฮหลักฐานเฎาะอิฟจริงหรือ
อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ กับ Arifeen Saengwiman Alazhary และคนอื่นๆ อีก 2 คนที่ สถาบันอัลกุดวะฮฺ
15 ชม. · กรุงเทพมหานคร, Bangkok Metropolis ·
ช่วยกันแชร์นะครับ ผมได้นำสรุปคำสอนเรื่องหะดีษละหมาดตะรอวีหฺ 8 ร็อกอะฮ์ โดยท่านอ.อารีฟีน แสงวิมาน
หะดีษละหมาดตะรอวีหฺ 8 เป็นหะดีษฎ่ออีฟฟฟ(อ่อนแอ)... มิใช่เป็นหะดีษหะซัน(หะดีษที่ดี)ตามที่มีคนนำคำอ้างมาจากชัยค์ยูซุฟ อัลก็อรฎอวีย์ แต่เป็นหะดีษฎ่ออีฟตามมติของปราชญ์หะดีษ
การละหมาดตะรอวิห์จำนวน 8 ร็อกอะฮ์ที่กลุ่มวะฮฺฮาบีคณะใหม่ชอบอ้างว่าเป็นซุนนะฮ์จากท่านนะบีย์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ความจริงแล้วเป็นสายรายงานที่ฎ่ออีฟ(อ่อนแอ)
สายรายงานของวะฮฺฮาบีคณะใหม่ที่ชอบอ้างอิงมาจากท่านญาบิร: ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ได้รายงานว่า
عَنْ عِيْسَى بْنِ جَارِيَةَ عَنْ جَابِرٍ بْنِ عَبْدِ اللهِ قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُوْلُ اللهُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَ سَلَّمَ فِيْ رَمَضَانَ ثَمَانَ رَكَعاَتٍ وَالْوِتْرَ
“ จากท่านอีซา บิน ญาริยะฮ์ จากท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮฺ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนร่อมะฎอน 8 ร็อกอะฮ์และทำวิติร” รายงานโดยอิบนุ คุซัยมะฮ์, ศ่อฮีหฺ อิบนิ คุซัยมะฮ์, เล่ม 2, หน้า 138.
หะดีษนี้ฎ่ออีฟ เพราะมีนักรายงานชื่อ อีซา บิน ญาริยะฮ์ ซึ่งบรรดาปราชญ์หะดีษหลายท่านกล่าวว่าเขานั้นฎ่ออีฟ ท่านอะบูดาวูดและท่านอันนะซาอีย์กล่าวว่า อีซา บิน ญาริยะฮ์นั้น “หะดีษเขาถูกทิ้ง” (مَتْرُوْكُ الْحَدِيْثِ)
@@@@@
ชี้แจง
ก่อนอื่น ขอเรียนให้ผู้อ่านทราบทั่วกันว่า เราไม่มีปัญญหา กับใครก็ตามที่ละหมาดตารอเวียะ 20 รอ็กอัต เราเปิดกว้างในประเด็นนี้ แต่ที่ต้องชี้แจง เพราะพี่น้องเราส่วนหนึ่ง ทำการละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอัตและละหมาดวิตร 3 ถูกโจมตีและหุกุกุมว่าไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะและเป็นหลักฐานเฎาะอีฟ
หะดิษที่ว่าคือ
عَنْ عِيْسَى بْنِ جَارِيَةَ عَنْ جَابِرٍ بْنِ عَبْدِ اللهِ قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُوْلُ اللهُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَ سَلَّمَ فِيْ رَمَضَانَ ثَمَانَ رَكَعاَتٍ وَالْوِتْرَ
“จากท่านอีซา บิน ญาริยะฮ์ จากท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮฺ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนร่อมะฎอน 8 ร็อกอะฮ์และทำวิติร
......
มาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหะดิษข้างต้น
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์กล่าวว่า
قَالَ الْحَافِظُ الذَّهَبِيُّ فِي "مِيزَانِ الِاعْتِدَالِ" بَعْدَ ذِكْرِ هَذَا الْحَدِيثِ: إِسْنَادُهُ وَسَطٌ اِنْتَهَى.
وَهَذَا الْحَدِيثُ صَحِيحٌ عِنْدَ اِبْنِ خُزَيْمَةَ وَابْنِ حِبَّانَ، وَلِذَا أَخْرَجَاهُمَا فِي صَحِيحِهِمَا. وَقَدْ ذَكَرَ الْحَافِظُ اِبْنُ حَجَرٍ هَذَا الْحَدِيثِ فِي فَتْحِ الْبَارِي لِبَيَانِ عَدَدِ الرَّكَعَاتِ الَّتِي صَلَّاهَا النَّبِيُّ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِالنَّاسِ فِي شَهْرِ رَمَضَانَ، فَهُوَ صَحِيحٌ عِنْدَهُ أَوْ حَسَنٌ،
อัลหาฟิซอัซซะฮะบีย์ กล่าวไว้ใน หนังสือ มีซาลเอียะติดาล หลังจากที่กล่าวถึงหะดิษนี้ว่า สายรายงานของมันอยู่ในระดับปานกลาง (หมายถึงอยู่นะดับที่ดี)
และหะดิษนี้เศาะเฮียะในทัศนะของอิบนุคุซัยมะอ และอิบนุหิบบาน เพราะเหตุนี้เขาทั้งสองได้บันทึกไว้ในเศาะเฮียะของเขาทั้งสอง และอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ได้ระบุหะดิษนี้ไว้ในฟัตหุลบารีย์ เพื่ออิบายถึง จำนวนเราะกะอาตที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ละหมาดนำประชาชน ในเดือนเราะมะฎอน ดังนั้น มันเป็นหะดิษเศาะเฮียะ หรือไม่ก็หะซัน ในทัศนะของเขา
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ได้กล่าวต่อไปว่า
فَلَمَّا حَكَمَ الذَّهَبِيُّ بِأَنَّ إِسْنَادَهُ وَسَطٌ بَعْدَ ذِكْرِ الْجَرْحِ وَالتَّعْدِيلِ فِي عِيسَى بْنِ جَارِيَةَ وَهُوَ مِنْ أَهْلِ الِاسْتِقْرَاءِ التَّامِّ فِي نَقْدِ الرِّجَالِ، فَحُكْمُهُ بِأَنَّ إِسْنَادَهُ وَسَطٌ هُوَ الصَّوَابُ وَيُؤَيِّدُهُ إِخْرَاجُ اِبْنِ خُزَيْمَةَ وَابْنِ حِبَّانَ هَذَا الْحَدِيثَ فِي صَحِيحَيْهِمَا؛ وَلَا يُلْتَفَتُ إِلَى مَا قَالَ النَّيْمَوِيُّ، وَيَشْهَدُ لِحَدِيثِ جَابِرٍ هَذَا حَدِيثُ عَائِشَةَ الْمَذْكُورُ: مَا كَانَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
เมื่ออัซซะฮะบีย์ ได้ชี้ขาดว่าสายรายงานของมัน วัสฏุ(อยู่ในระดับที่ดี) หลังจากที่ได้ระบุจุดด้อยและจุดเด่นในตัวของ(ผู้รายงานคนหนึ่งที่ชื่อ)อีซา บิน ญารียะอ โดยที่เขา(อิหม่ามอัซซะฮะบีย์))ก็เป็นส่วนหนึ่งจากนักสืบค้นที่สมบูรณ์ในการพิจารณาข้อบกพร่องของบรรดาผู้รายงานหะดิษ แล้วเขาได้ชี้ขาดว่า “สายรายงานของมัน วัสฏุ (อยู่ระดับปานกลาง) มันคือ ถูกต้อง และ การบันทึกของอิบนุคุซัยมะฮ และอิบนุหิบบาน ต่อหะดิษนี้ในเศาะเฮียะของเขาทั้งสอง ยังได้สนับสนุน มัน(หมายถึงสนับสนุนทัศนะของอิหม่ามอัซซะฮะบีย์) และอย่าไปสนใจสิ่งที่อัลนัยมะวีย์กล่าวไว้(คือ เขากล่าวว่าเป็นหะดิษเฎาะอีฟ) และที่มายืนยันสนับสนุน หะดิษญาบีรนี้ คือ หะดิษอาอิฉะฮที่ถูกกล่าวมาแล้ว ว่า “ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์” – ดู ตุหฟะตุลอะวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في قيام شهر رمضان อธิบายหะดิษหมายเลข ๘๐๖
หลังจากที่ อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ (ร.ฮ)ได้กล่าวถึงทัศนะต่างๆที่ขัดแย้งเรื่องจำนวนเราะกะอัต ของละหมาดกิยามุเราะมะฎอน (ซึ่งหมายถึงละหมาดตารอเวียะนั้นเอง) โดยท่าน อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
قُلْتُ : الْقَوْلُ الرَّاجِحُ الْمُخْتَارُ الْأَقْوَى مِنْ حَيْثُ الدَّلِيلُ هُوَ هَذَا الْقَوْلُ الْأَخِيرُ الَّذِي اخْتَارَهُ مَالِكٌ لِنَفْسِهِ ، أَعْنِي إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً ، وَهُوَ الثَّابِتُ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِالسَّنَدِ الصَّحِيحِ ، بِهَا أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ -رَضِيَ اللَّهُ تَعَالَى عَنْهُ- ، وَأَمَّا الْأَقْوَالُ الْبَاقِيَةُ فَلَمْ يَثْبُتْ وَاحِدٌ مِنْهَا عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِسَنَدٍ صَحِيحٍ وَلَا ثَبَتَ الْأَمْرُ بِهِ عَنْ أَحَدٍ مِنَ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ بِسَنَدٍ صَحِيحٍ خَالٍ عَنِ الْكَلَامِ
ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า " “ทัศนะที่มีน้ำหนักที่ได้รับการคัดเลือกที่แข็งแรงที่สุด จากบรรดาหลักฐาน คือ ทัศนะสุดท้ายที่มาลิกได้เลือกมันให้แก่ตัวเขาเอง ข้าพเจ้าหมายถึง สิบเอ็ด รอกาอัต และมันเป็นที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง ซึ่ง อุมัร บิน อัลคอฏฏอ็บ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู ได้ใช้ให้กระทำ ด้วยมัน และสำหรับบรรดาทัศนะที่เหลือ นั้น ไม่มีอันหนึ่งอันใดที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะและไม่ปรากฏยืนยันคำสั่งด้วยมันจากคนหนึ่งคนใดจากบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน ด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะที่ปราศจากการวิจารณ์ - ดู ตุคฟะตุลอะฮวะซีย์ ชัรหุอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้า 253
ท่านอัส-สะยูฎีย์(ร.ฮ)ได้กล่าว ว่า ...
وَقَالَ الْجُوْرِىُّ _ مِنْ أَصْحَابِنَا _ عَنْ مَالِكٍ أَنَّهُ قَالَ : اَلَّذِىْ جَمَعَ عَلَيْهِ النَّاسَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أَحَبُّ إِلَىَّ، وَهِىَ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً! وَهِىَ صَلاَةُ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، قِيْلَ لَهُ : إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً مَعَ الْوِتْرِ؟ قَالَ : نَعَمْ، وَثَلاَثَ عَشْرَةَ قَرِيْبٌ، قَالَ : وَلاَ أَدْرِىْ مِنْ أَيْنَ أُحْدِثَ هَذَاالرُّكُوْعُ الْكَثِيْرُ؟ ...
ท่านอัล-ญูรีย์ซึ่งเป็นนักวิชาการมัษฮับของเราท่านหนึ่งกล่าวรายงานมาจากท่านอิหม่ามมาลิกว่า .. “สิ่งซึ่งท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.ได้ให้ประชาชนกระทำร่วมกันเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุด นั่นคือ 11 ร็อกอะฮ์! และนั่นก็เป็นนมาซของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม, มีบางคนกล่าวถามท่านว่า .. 11 ร็อกอะฮ์พร้อมกับวิตรี่ด้วยใช่ไหม? .. ท่านตอบว่า ใช่, และ 13 ร็อกอะฮ์ -“อัล-มะศอเบี๊ยะห์ ฟี ศ่อลาติตตะรอเวี๊ยะฮ์” (เล่มที่ 1 หน้า 542 จากหนังสือ “อัล- หาวีย์ ลิ้ลฟะตาวีย์” และอัลมุบาเราะกาฟูรีย์ได้นำมาอ้างอิงในหนังสือของเขา คือ ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 253 เช่นกัน
ท่านอิบนุลอะรอบีย์ ได้กล่าวในหนังสือ “ชัรฺหุ อัต-ติรฺมีซีย์” ของท่าน เล่มที่ 4 หน้า 19 ว่า ...
وَالصَّحِيْحُ : أَنْ يُصَلَّى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، صَلاَةُ النَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ وَقِيَامُهُ، فَأَمَّا غَيْرُذَلِكَ مِنَ اْلأَعْدَادِ فَلاَ أَصْلَ لَهُ وَلاَ حَدَّ فِيْهِ، فَإِذَا لَمْ يَكُنْ بُدَّ مِنَ الْحَدِّ فَمَا كَانَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ يُصَلِّىْ، مَا زَادَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ فِىْ رَمَضَانَ وَلاَ فِىْ غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، وَهَذِهِ الصَّلاَةُ هِىَ قِيَامُ اللَّيْلِ، فَوَجَبَ أَنْ يُقْتَدَى فِيْهَا بِالنَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ ...
“ที่ถูกต้องนั้น ให้ทำนมาซ(ในเดือนรอมะฎอน) 11 ร็อกอะฮ์, ซึ่งเป็นนมาซของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม,และการละหมาดกิยามเราะมะฎอนของท่าน อนึ่งสำหรับ จำนวน(ร็อกอะฮ์)ที่อื่นจากนี้ ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานใดๆและไม่มีการกำหนดใดๆในเรื่องนี้ เพราะหากจำเป็นจะต้องมีการกำหนดกันแล้วก็ต้องยึดถือการนมาซของท่านนบีย์เป็นหลัก (นั่นคือ) ท่านนบีย์จะไม่เคยนมาซ – ไม่ว่าในเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่รอมะฎอน -- เกินกว่า 11 ร็อกอะฮ์, และนมาซนี้คือนมาซในยามค่ำคืน ดังนั้นจึง “วาญิบ” จะต้องปฏิบัติตามในเรื่องนี้ต่อท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม” .
อิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า
فَالْحَاصِلُ أَنَّ الْعِشْرِينَ رَكْعَةًلَمْ تَثْبُتْ مِنْ فِعْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَمَا نَقَلَهُ عَنْ صَحِيحِ ابْنِ حِبَّانَ غَايَةٌ فِيمَا ذَهَبْنَا إِلَيْهِ مِنْ تَمَسُّكِنَا بِمَا فِي الْبُخَارِيِّ عَنْ عائشة أَنَّهُ كَانَ لَا يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ ; فَإِنَّهُ مُوَافِقٌ لَهُ مِنْ حَيْثُ إِنَّهُ صَلَّى التَّرَاوِيحَ ثَمَانِيًا ثُمَّ أَوْتَرَ بِثَلَاثٍ ، فَتِلْكَ إِحْدَى عَشْرَةَ
ดังนั้น สรุปว่า แท้จริง 20 รอ็กอัตนั้น ไม่ปรากฏรายงานยืนยัน จากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และ สิ่งที่เขา(อิบนุหิบบาน)ได้อ้างถึง มันจาก เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน คือ จุดมุ่งหมาย ในสิ่งที่เราได้มีทัศนะไปยังมัน จากการที่เรายึดด้วยสิ่งที่ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรี จากอาอีฉะฮ ที่ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ เพราะแท้จริง มันมีสิ่งที่สอดคล้องกัน โดยที่ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลฯ ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัต หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร 3 รอ็กอัต ดังกล่าวนั้นคือ 11 รอ็กอัต- ดู อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ 1/249
................
หากหะดิษญาบีร เฎาะอีฟ ก็มีหะดิษเศาะเฮียะสนับสนุนคือหะดิษอาอีฉะฮ ที่ระบุ จำนวนละหมาดของท่านนบี 11 รอ็กอัตอยู่แล้ว,.
การนำหะดิษญาบีร มาเป็นจุดโฟกัส เพื่อที่จะปฏิเสธและหุกุมว่า ละหมาดในเดือนเราะมะฎอน 8 รอ็กอัตและวิตร 3 รอ็กอัตนั้น ไม่ใช่ตารอเวียะ เป็นการเลือกเอามาตามนัฟซูและตัดสินโดยอคติ โดยการมองข้ามหะดิษเศาะเฮียะที่รายงานโดยท่านหญิงอาอีฉะฮ ทั้งๆหะดิษนี้ท่านหญิงอาอีฉะฮ ได้ตอบเกี่ยวกับการละหมาดในยามค่ำคืนของท่านนบี ในเดือนเราะมะฏอนและนอกเดือนเราะมะฎอน ว่า ไม่เกิน 11 รอ็กอัต
คนบางกลุ่ม พยายามจะอ้างทัศนะต่างๆ เพื่อลบล้างหะดิษที่เป็นการกระทำของนบี ศอ็ลฯ -วัลอิยาซุบิลละฮ เพื่อที่จะล้มละหมาดตารอเวีย 8 รอ็กอัตและวิตร 3 รอ็กอัต ที่ฝ่ายที่เห็นต่างกับตนทำ อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะเอาชนะให้ได้
อิหม่ามมาลิก กล่าวว่า
كل أحد يؤخذ من قوله ويرد إلا صاحب هذا القبر
ทุกคน คำพูดของเขาจะถูกเอามาปฏิบัติและถูกปฏิเสธ ยกเว้น เจ้าของหลุมศพนี้ (หมายถึงรซูลุลลอฮ) – ดู มะกอศิดุลหะสะนะฮ ของอัสสะคอวีย์ หะดิษหมายเลข 815
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
1/6/60