วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอะฮหลักฐานเฎาะอิฟจริงหรือ






ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ 




 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอะฮหลักฐานเฎาะอิฟจริงหรือ

อะหมัดรอชีดี อิสมัญ อัลอัชอะรีย์ กับ Arifeen Saengwiman Alazhary และคนอื่นๆ อีก 2 คนที่ สถาบันอัลกุดวะฮฺ
15 ชม. · กรุงเทพมหานคร, Bangkok Metropolis ·
ช่วยกันแชร์นะครับ ผมได้นำสรุปคำสอนเรื่องหะดีษละหมาดตะรอวีหฺ 8 ร็อกอะฮ์ โดยท่านอ.อารีฟีน แสงวิมาน
หะดีษละหมาดตะรอวีหฺ 8 เป็นหะดีษฎ่ออีฟฟฟ(อ่อนแอ)... มิใช่เป็นหะดีษหะซัน(หะดีษที่ดี)ตามที่มีคนนำคำอ้างมาจากชัยค์ยูซุฟ อัลก็อรฎอวีย์ แต่เป็นหะดีษฎ่ออีฟตามมติของปราชญ์หะดีษ
การละหมาดตะรอวิห์จำนวน 8 ร็อกอะฮ์ที่กลุ่มวะฮฺฮาบีคณะใหม่ชอบอ้างว่าเป็นซุนนะฮ์จากท่านนะบีย์ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ความจริงแล้วเป็นสายรายงานที่ฎ่ออีฟ(อ่อนแอ)
สายรายงานของวะฮฺฮาบีคณะใหม่ที่ชอบอ้างอิงมาจากท่านญาบิร: ท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ ได้รายงานว่า
عَنْ عِيْسَى بْنِ جَارِيَةَ عَنْ جَابِرٍ بْنِ عَبْدِ اللهِ قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُوْلُ اللهُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَ سَلَّمَ فِيْ رَمَضَانَ ثَمَانَ رَكَعاَتٍ وَالْوِتْرَ
“ จากท่านอีซา บิน ญาริยะฮ์ จากท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮฺ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนร่อมะฎอน 8 ร็อกอะฮ์และทำวิติร” รายงานโดยอิบนุ คุซัยมะฮ์, ศ่อฮีหฺ อิบนิ คุซัยมะฮ์, เล่ม 2, หน้า 138.
หะดีษนี้ฎ่ออีฟ เพราะมีนักรายงานชื่อ อีซา บิน ญาริยะฮ์ ซึ่งบรรดาปราชญ์หะดีษหลายท่านกล่าวว่าเขานั้นฎ่ออีฟ ท่านอะบูดาวูดและท่านอันนะซาอีย์กล่าวว่า อีซา บิน ญาริยะฮ์นั้น “หะดีษเขาถูกทิ้ง” (مَتْرُوْكُ الْحَدِيْثِ)
@@@@@
ชี้แจง
ก่อนอื่น ขอเรียนให้ผู้อ่านทราบทั่วกันว่า เราไม่มีปัญญหา กับใครก็ตามที่ละหมาดตารอเวียะ 20 รอ็กอัต เราเปิดกว้างในประเด็นนี้ แต่ที่ต้องชี้แจง เพราะพี่น้องเราส่วนหนึ่ง ทำการละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอัตและละหมาดวิตร 3 ถูกโจมตีและหุกุกุมว่าไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะและเป็นหลักฐานเฎาะอีฟ
หะดิษที่ว่าคือ
عَنْ عِيْسَى بْنِ جَارِيَةَ عَنْ جَابِرٍ بْنِ عَبْدِ اللهِ قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُوْلُ اللهُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَ سَلَّمَ فِيْ رَمَضَانَ ثَمَانَ رَكَعاَتٍ وَالْوِتْرَ
“จากท่านอีซา บิน ญาริยะฮ์ จากท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮฺ เขากล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนร่อมะฎอน 8 ร็อกอะฮ์และทำวิติร
......
มาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหะดิษข้างต้น
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์กล่าวว่า
قَالَ الْحَافِظُ الذَّهَبِيُّ فِي "مِيزَانِ الِاعْتِدَالِ" بَعْدَ ذِكْرِ هَذَا الْحَدِيثِ: إِسْنَادُهُ وَسَطٌ اِنْتَهَى.
وَهَذَا الْحَدِيثُ صَحِيحٌ عِنْدَ اِبْنِ خُزَيْمَةَ وَابْنِ حِبَّانَ، وَلِذَا أَخْرَجَاهُمَا فِي صَحِيحِهِمَا. وَقَدْ ذَكَرَ الْحَافِظُ اِبْنُ حَجَرٍ هَذَا الْحَدِيثِ فِي فَتْحِ الْبَارِي لِبَيَانِ عَدَدِ الرَّكَعَاتِ الَّتِي صَلَّاهَا النَّبِيُّ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِالنَّاسِ فِي شَهْرِ رَمَضَانَ، فَهُوَ صَحِيحٌ عِنْدَهُ أَوْ حَسَنٌ،
อัลหาฟิซอัซซะฮะบีย์ กล่าวไว้ใน หนังสือ มีซาลเอียะติดาล หลังจากที่กล่าวถึงหะดิษนี้ว่า สายรายงานของมันอยู่ในระดับปานกลาง (หมายถึงอยู่นะดับที่ดี)
และหะดิษนี้เศาะเฮียะในทัศนะของอิบนุคุซัยมะอ และอิบนุหิบบาน เพราะเหตุนี้เขาทั้งสองได้บันทึกไว้ในเศาะเฮียะของเขาทั้งสอง และอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ได้ระบุหะดิษนี้ไว้ในฟัตหุลบารีย์ เพื่ออิบายถึง จำนวนเราะกะอาตที่นบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ละหมาดนำประชาชน ในเดือนเราะมะฎอน ดังนั้น มันเป็นหะดิษเศาะเฮียะ หรือไม่ก็หะซัน ในทัศนะของเขา
อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ได้กล่าวต่อไปว่า
فَلَمَّا حَكَمَ الذَّهَبِيُّ بِأَنَّ إِسْنَادَهُ وَسَطٌ بَعْدَ ذِكْرِ الْجَرْحِ وَالتَّعْدِيلِ فِي عِيسَى بْنِ جَارِيَةَ وَهُوَ مِنْ أَهْلِ الِاسْتِقْرَاءِ التَّامِّ فِي نَقْدِ الرِّجَالِ، فَحُكْمُهُ بِأَنَّ إِسْنَادَهُ وَسَطٌ هُوَ الصَّوَابُ وَيُؤَيِّدُهُ إِخْرَاجُ اِبْنِ خُزَيْمَةَ وَابْنِ حِبَّانَ هَذَا الْحَدِيثَ فِي صَحِيحَيْهِمَا؛ وَلَا يُلْتَفَتُ إِلَى مَا قَالَ النَّيْمَوِيُّ، وَيَشْهَدُ لِحَدِيثِ جَابِرٍ هَذَا حَدِيثُ عَائِشَةَ الْمَذْكُورُ: مَا كَانَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً
เมื่ออัซซะฮะบีย์ ได้ชี้ขาดว่าสายรายงานของมัน วัสฏุ(อยู่ในระดับที่ดี) หลังจากที่ได้ระบุจุดด้อยและจุดเด่นในตัวของ(ผู้รายงานคนหนึ่งที่ชื่อ)อีซา บิน ญารียะอ โดยที่เขา(อิหม่ามอัซซะฮะบีย์))ก็เป็นส่วนหนึ่งจากนักสืบค้นที่สมบูรณ์ในการพิจารณาข้อบกพร่องของบรรดาผู้รายงานหะดิษ แล้วเขาได้ชี้ขาดว่า “สายรายงานของมัน วัสฏุ (อยู่ระดับปานกลาง) มันคือ ถูกต้อง และ การบันทึกของอิบนุคุซัยมะฮ และอิบนุหิบบาน ต่อหะดิษนี้ในเศาะเฮียะของเขาทั้งสอง ยังได้สนับสนุน มัน(หมายถึงสนับสนุนทัศนะของอิหม่ามอัซซะฮะบีย์) และอย่าไปสนใจสิ่งที่อัลนัยมะวีย์กล่าวไว้(คือ เขากล่าวว่าเป็นหะดิษเฎาะอีฟ) และที่มายืนยันสนับสนุน หะดิษญาบีรนี้ คือ หะดิษอาอิฉะฮที่ถูกกล่าวมาแล้ว ว่า “ท่านรอซูลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์” – ดู ตุหฟะตุลอะวะซีย์ เรื่อง باب ما جاء في قيام شهر رمضان อธิบายหะดิษหมายเลข ๘๐๖
หลังจากที่ อัลมุบาเราะกะฟูรีย์ (ร.ฮ)ได้กล่าวถึงทัศนะต่างๆที่ขัดแย้งเรื่องจำนวนเราะกะอัต ของละหมาดกิยามุเราะมะฎอน (ซึ่งหมายถึงละหมาดตารอเวียะนั้นเอง) โดยท่าน อัลมุบาเราะกาฟูรีย์(ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
قُلْتُ : الْقَوْلُ الرَّاجِحُ الْمُخْتَارُ الْأَقْوَى مِنْ حَيْثُ الدَّلِيلُ هُوَ هَذَا الْقَوْلُ الْأَخِيرُ الَّذِي اخْتَارَهُ مَالِكٌ لِنَفْسِهِ ، أَعْنِي إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً ، وَهُوَ الثَّابِتُ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِالسَّنَدِ الصَّحِيحِ ، بِهَا أَمَرَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ -رَضِيَ اللَّهُ تَعَالَى عَنْهُ- ، وَأَمَّا الْأَقْوَالُ الْبَاقِيَةُ فَلَمْ يَثْبُتْ وَاحِدٌ مِنْهَا عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ- بِسَنَدٍ صَحِيحٍ وَلَا ثَبَتَ الْأَمْرُ بِهِ عَنْ أَحَدٍ مِنَ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ بِسَنَدٍ صَحِيحٍ خَالٍ عَنِ الْكَلَامِ
ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า " “ทัศนะที่มีน้ำหนักที่ได้รับการคัดเลือกที่แข็งแรงที่สุด จากบรรดาหลักฐาน คือ ทัศนะสุดท้ายที่มาลิกได้เลือกมันให้แก่ตัวเขาเอง ข้าพเจ้าหมายถึง สิบเอ็ด รอกาอัต และมันเป็นที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง ซึ่ง อุมัร บิน อัลคอฏฏอ็บ เราะฎิยัลลอฮุอันฮู ได้ใช้ให้กระทำ ด้วยมัน และสำหรับบรรดาทัศนะที่เหลือ นั้น ไม่มีอันหนึ่งอันใดที่แน่นอนจากรซูลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะและไม่ปรากฏยืนยันคำสั่งด้วยมันจากคนหนึ่งคนใดจากบรรดาเคาะลิฟะฮอัรรอชิดีน ด้วยสายรายงานที่เศาะเฮียะที่ปราศจากการวิจารณ์ - ดู ตุคฟะตุลอะฮวะซีย์ ชัรหุอัตติรมิซีย์ เล่ม 3 หน้า 253
ท่านอัส-สะยูฎีย์(ร.ฮ)ได้กล่าว ว่า ...
وَقَالَ الْجُوْرِىُّ _ مِنْ أَصْحَابِنَا _ عَنْ مَالِكٍ أَنَّهُ قَالَ : اَلَّذِىْ جَمَعَ عَلَيْهِ النَّاسَ عُمَرُ بْنُ الْخَطَّابِ أَحَبُّ إِلَىَّ، وَهِىَ إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً! وَهِىَ صَلاَةُ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، قِيْلَ لَهُ : إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً مَعَ الْوِتْرِ؟ قَالَ : نَعَمْ، وَثَلاَثَ عَشْرَةَ قَرِيْبٌ، قَالَ : وَلاَ أَدْرِىْ مِنْ أَيْنَ أُحْدِثَ هَذَاالرُّكُوْعُ الْكَثِيْرُ؟ ...
ท่านอัล-ญูรีย์ซึ่งเป็นนักวิชาการมัษฮับของเราท่านหนึ่งกล่าวรายงานมาจากท่านอิหม่ามมาลิกว่า .. “สิ่งซึ่งท่านอุมัรฺ อิบนุ้ลค็อฏฏอบ ร.ฎ.ได้ให้ประชาชนกระทำร่วมกันเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่สุด นั่นคือ 11 ร็อกอะฮ์! และนั่นก็เป็นนมาซของท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม, มีบางคนกล่าวถามท่านว่า .. 11 ร็อกอะฮ์พร้อมกับวิตรี่ด้วยใช่ไหม? .. ท่านตอบว่า ใช่, และ 13 ร็อกอะฮ์ -“อัล-มะศอเบี๊ยะห์ ฟี ศ่อลาติตตะรอเวี๊ยะฮ์” (เล่มที่ 1 หน้า 542 จากหนังสือ “อัล- หาวีย์ ลิ้ลฟะตาวีย์” และอัลมุบาเราะกาฟูรีย์ได้นำมาอ้างอิงในหนังสือของเขา คือ ตุหฟะตุลอะหวะซีย์ เล่ม 3 หน้า 253 เช่นกัน
ท่านอิบนุลอะรอบีย์ ได้กล่าวในหนังสือ “ชัรฺหุ อัต-ติรฺมีซีย์” ของท่าน เล่มที่ 4 หน้า 19 ว่า ...
وَالصَّحِيْحُ : أَنْ يُصَلَّى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، صَلاَةُ النَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ وَقِيَامُهُ، فَأَمَّا غَيْرُذَلِكَ مِنَ اْلأَعْدَادِ فَلاَ أَصْلَ لَهُ وَلاَ حَدَّ فِيْهِ، فَإِذَا لَمْ يَكُنْ بُدَّ مِنَ الْحَدِّ فَمَا كَانَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ يُصَلِّىْ، مَا زَادَ النَّبِىُّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ فِىْ رَمَضَانَ وَلاَ فِىْ غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً، وَهَذِهِ الصَّلاَةُ هِىَ قِيَامُ اللَّيْلِ، فَوَجَبَ أَنْ يُقْتَدَى فِيْهَا بِالنَّبِىِّ عَلَيْهِ السَّلاَمُ ...
“ที่ถูกต้องนั้น ให้ทำนมาซ(ในเดือนรอมะฎอน) 11 ร็อกอะฮ์, ซึ่งเป็นนมาซของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม,และการละหมาดกิยามเราะมะฎอนของท่าน อนึ่งสำหรับ จำนวน(ร็อกอะฮ์)ที่อื่นจากนี้ ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานใดๆและไม่มีการกำหนดใดๆในเรื่องนี้ เพราะหากจำเป็นจะต้องมีการกำหนดกันแล้วก็ต้องยึดถือการนมาซของท่านนบีย์เป็นหลัก (นั่นคือ) ท่านนบีย์จะไม่เคยนมาซ – ไม่ว่าในเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่รอมะฎอน -- เกินกว่า 11 ร็อกอะฮ์, และนมาซนี้คือนมาซในยามค่ำคืน ดังนั้นจึง “วาญิบ” จะต้องปฏิบัติตามในเรื่องนี้ต่อท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม” .
อิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า
فَالْحَاصِلُ أَنَّ الْعِشْرِينَ رَكْعَةًلَمْ تَثْبُتْ مِنْ فِعْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَمَا نَقَلَهُ عَنْ صَحِيحِ ابْنِ حِبَّانَ غَايَةٌ فِيمَا ذَهَبْنَا إِلَيْهِ مِنْ تَمَسُّكِنَا بِمَا فِي الْبُخَارِيِّ عَنْ عائشة أَنَّهُ كَانَ لَا يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ ; فَإِنَّهُ مُوَافِقٌ لَهُ مِنْ حَيْثُ إِنَّهُ صَلَّى التَّرَاوِيحَ ثَمَانِيًا ثُمَّ أَوْتَرَ بِثَلَاثٍ ، فَتِلْكَ إِحْدَى عَشْرَةَ
ดังนั้น สรุปว่า แท้จริง 20 รอ็กอัตนั้น ไม่ปรากฏรายงานยืนยัน จากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และ สิ่งที่เขา(อิบนุหิบบาน)ได้อ้างถึง มันจาก เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน คือ จุดมุ่งหมาย ในสิ่งที่เราได้มีทัศนะไปยังมัน จากการที่เรายึดด้วยสิ่งที่ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรี จากอาอีฉะฮ ที่ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ เพราะแท้จริง มันมีสิ่งที่สอดคล้องกัน โดยที่ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลฯ ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัต หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร 3 รอ็กอัต ดังกล่าวนั้นคือ 11 รอ็กอัต- ดู อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ 1/249
................
หากหะดิษญาบีร เฎาะอีฟ ก็มีหะดิษเศาะเฮียะสนับสนุนคือหะดิษอาอีฉะฮ ที่ระบุ จำนวนละหมาดของท่านนบี 11 รอ็กอัตอยู่แล้ว,.
การนำหะดิษญาบีร มาเป็นจุดโฟกัส เพื่อที่จะปฏิเสธและหุกุมว่า ละหมาดในเดือนเราะมะฎอน 8 รอ็กอัตและวิตร 3 รอ็กอัตนั้น ไม่ใช่ตารอเวียะ เป็นการเลือกเอามาตามนัฟซูและตัดสินโดยอคติ โดยการมองข้ามหะดิษเศาะเฮียะที่รายงานโดยท่านหญิงอาอีฉะฮ ทั้งๆหะดิษนี้ท่านหญิงอาอีฉะฮ ได้ตอบเกี่ยวกับการละหมาดในยามค่ำคืนของท่านนบี ในเดือนเราะมะฏอนและนอกเดือนเราะมะฎอน ว่า ไม่เกิน 11 รอ็กอัต
คนบางกลุ่ม พยายามจะอ้างทัศนะต่างๆ เพื่อลบล้างหะดิษที่เป็นการกระทำของนบี ศอ็ลฯ -วัลอิยาซุบิลละฮ เพื่อที่จะล้มละหมาดตารอเวีย 8 รอ็กอัตและวิตร 3 รอ็กอัต ที่ฝ่ายที่เห็นต่างกับตนทำ อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะเอาชนะให้ได้
อิหม่ามมาลิก กล่าวว่า
كل أحد يؤخذ من قوله ويرد إلا صاحب هذا القبر
ทุกคน คำพูดของเขาจะถูกเอามาปฏิบัติและถูกปฏิเสธ ยกเว้น เจ้าของหลุมศพนี้ (หมายถึงรซูลุลลอฮ) – ดู มะกอศิดุลหะสะนะฮ ของอัสสะคอวีย์ หะดิษหมายเลข 815
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
1/6/60

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เมื่อเจอความจริงชัยฏอนก็บิดเบือน





ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ข้างล่างคือหลักฐานเปิดโปงว่า บุคคลข้างต้นบิดเบือนโกหก

 ในภาพอาจจะมี ข้อความ
ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

เมื่อเจอความจริงชัยฏอนก็บิดเบือน
Abdulhaleem Matraksa
กีตาบที่อ้างว่าอิหม่ามซายูฏี เป็นเจ้าของ ที่ชื่อ المصابيح ที่เวาะสันอ้างมี50หน้า ตะฮฺกีกโดยเชควาบี เพิ่งเคยตีพิมไม่กี่วันที่ผ่านมา น่าเชื่อถือมากเลยนะครับ มีน้ำหนักดีมากๆ เพราะอุลามาประเทศอื่นเขาไม่เห็นรุ้จักหนังสือเล่มนี้เลย
@@@@
ชี้แจง
สืบเนืองมาจาก บุคคลข้างต้น คือ Abdulhaleem Matraksa และคณะ ปฏิเสธว่า หะดิษต่อไปนี้ว่า ไม่เกี่ยวกับละหมาดตารอเวียะ คือ
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. ก็กล่าวตอบว่า ...
مَا كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيْدُ فِىْ رَمَضَانَ وَلاَ فِىْ غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً .........
“ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยนมาซ – ไม่ว่าในเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่เดือนรอมะฎอน – เกินกว่า 11 ร็อกอะฮ์ .......................”
(บันทึกโดยท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิม, ท่านอิหม่ามมาลิก, ท่านอบูดาวูด, ท่านอัน-นะซาอีย์, ท่านอะห์มัด, ท่านอัต-ติรฺมีซีย์, ท่านอัล-บัยฮะกีย์, และท่านอบู อะวานะฮ์
ท่านบุคอรีย์ได้นำเอาหะดีษบทข้างต้นนี้มาบันทึกไว้ในหนังสือหะดีษ “อัศ-เศาะเหี๊ยะห์” ของท่าน 3 ตำแหน่งคือ ...
1. ในกิตาบ “อัต-ตะฮัจญุด” หะดีษที่ 1147, บาบว่าด้วยเรื่อง “การนมาซของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอนและเดือนอื่นๆ” ..
2. ในกิตาบ “ศ่อลาตุ้ตตะรอเวี๊ยะห์” หะดีษที่ 2013, บาบว่าด้วยเรื่อง “ความประเสริฐของการนมาซยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน ..
3. ท่านอัล-บัยฮะกีย์ ได้บันทึกหะดีษนี้ในหนังสือ “อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์” ของท่าน เล่มที่ 2 หน้า 495 ในบาบว่าด้วยเรื่อง “สิ่งที่ถูกรายงานมาเกี่ยวกับจำนวนร็อกอะฮ์ของนมาซยามค่ำคืนเดือนรอมะฎอน (คือนมาซตะรอเวี๊ยะห์) ...
4. ท่านมุหัมมัด อิบนุนัศร์ อัล-มัรฺรูซีย์ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 294) ได้เขียนหนังสือชี้แจงหลักฐานเกี่ยวกับการนมาซเหล่านี้รวม 3 เล่ม .. คือหนังสือกิยามุรอมะฎอน , หนังสือกิยามุ้ลลัยล์, และหนังสือศ่อลาตุ้ตตะรอเวี๊ยะห์ ...
.
............
แต่ Abdulhaleem Matraksa และคณะ กลับปฏิเสธว่าหะดิษข้างต้นไม่เกี่ยวกับละหมาดตารอเวียะ และ 11 รอ็กอัตที่นบีศอ็ลฯละหมาดในเดือนเราะมะฎอนไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะ
ข้าพเจ้าผู้เขียนจึงยืนยันว่า อิหม่ามอัสสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ยืนยันว่า ละหมาด 11 รอ็กอัตที่นบี ละหมาดในเดือนเราะมะฎอนคือ ละหมาดตารอเวียะ คือ
อิหม่ามสะยูฏีย์ กล่าวยืนยันว่า ละหมาดตามรายงานอาอีฉะฮคือ กิยามุเราะมะฎอน ดังที่ท่านกล่าวว่า
أَنَّهُ قَدْ ثَبَتَ فِي صَحِيحِ الْبُخَارِيِّ وَغَيْرِهِ أَنَّ عائشة سُئِلَتْ عَنْ قِيَامِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَمَضَانَ ، فَقَالَتْ : مَا كَانَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً 
.
แท้จริง ได้ปรากฏรายงานยืนยัน ในเศาะเฮียะบุคอรี และอื่นจากเขา ว่า แท้จริงท่านหญิงอาอีฉะฮ ถูกถามเกี่ยวกับ การละหมาดของท่านรซูลุลลอฮ ในเดือนเราะมะฎอน แล้วนางกล่าวว่า ปรากฏว่าท่านนบีนั้น ละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและในอื่นจากเดือนเราะมะฎอน ไม่เคยทำเกิน 11 รอกาอัต- ดูอัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ หน้า 348 เรื่อง การละหมาดตารอเวียะ
อิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้กล่าวตำราเล่มเดียวกันว่า
فَالْحَاصِلُ أَنَّ الْعِشْرِينَ رَكْعَةًلَمْ تَثْبُتْ مِنْ فِعْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَمَا نَقَلَهُ عَنْ صَحِيحِ ابْنِ حِبَّانَ غَايَةٌ فِيمَا ذَهَبْنَا إِلَيْهِ مِنْ تَمَسُّكِنَا بِمَا فِي الْبُخَارِيِّ عَنْ عائشة أَنَّهُ كَانَ لَا يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ ; فَإِنَّهُ مُوَافِقٌ لَهُ مِنْ حَيْثُ إِنَّهُ صَلَّى التَّرَاوِيحَ ثَمَانِيًا ثُمَّ أَوْتَرَ بِثَلَاثٍ ، فَتِلْكَ إِحْدَى عَشْرَةَ
ดังนั้น สรุปว่า แท้จริง 20 รอ็กอัตนั้น ไม่ปรากฏรายงานยืนยัน จากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และ สิ่งที่เขา(อิบนุหิบบาน)ได้อ้างถึง มันจาก เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน คือ จุดมุ่งหมาย ในสิ่งที่เราได้มีทัศนะไปยังมัน จากการที่เรายึดด้วยสิ่งที่ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรี จากอาอีฉะฮ ที่ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ เพราะแท้จริง มันมีสิ่งที่สอดคล้องกัน โดยที่ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลฯ ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัต หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร 3 รอ็กอัต ดังกล่าวนั้นคือ 11 รอ็กอัต
............
เมื่อนำเสนอความจริงข้างต้น นึกว่าจะยอมรับความจริง แต่ นายAbdulhaleem Matraksa และคณะกลับสวมหัวโขนชัยฏอน กล่าวหาว่า "วะฮบีย์เพิ่มเติมขึ้นมาเอง เพราะอุลามาประเทศอื่นเขาไม่เห็นรุ้จักหนังสือเล่มนี้เลย 
 ..................
ขอชี้แจงว่า เป็นการอ้างโกหกบิดเบือน ของ นาย Abdulhaleem Matraksa เพราะหนังสือ (อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ ได้พิมพ์รวมกับ อัลหาวีย์ลิลฟะตาวีย์ ซึ่งเป็นตำราของอิหม่ามสะยูฏีย์เอง เช่นกัน(ดังสำเนาที่แนบมา)
:ซึ่งได้มีการจัดพิมพ์มา นานแล้ว ทีผมนำมาอ้างอิงค์ พิมพ์ ในปี ฮ.ศ 1402 และปัจจุบัน ปี ฮ.ศ 1438 ผ่านมาแล้ว 36 ปี
และ หัวข้อ "อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ ได้พิมพ์รวมเป็นเล่มเดียวกับ หนังสืออัลหาวีย์ลิลฟะตาวีย์ " หน้า 347 ซึ่งพิมพ์เมื่อ 36 ปีที่แล้ว (ดูสำเนาที่แนบมา) 
 จึงแสดงให้เห็นว่า Abdulhaleem Matraksa และคณะได้สร้างวาทกรรมใส่ร้ายคนที่ถูกเรียกวะฮบีย์และโกหกบิดเบือน อย่างน่าละอายที่สุด เพียงแค่ต้องการจะสนับสนุน ทัศนะ 20 รอ็กอัต จึงกล้าโกหกขนาดนี้เชียวหรือ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
31/5/60

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ละหมาด 11 รอ็กอัตตามรายงานอาอีฉะฮไม่ใช่ตารอเวียะจริงหรือ



ในภาพอาจจะมี ข้อความ



ละหมาด 11 รอ็กอัตตามรายงานอาอีฉะฮไม่ใช่ตารอเวียะจริงหรือ

ก่อนอื่น ต้องเรียนให้พี่น้องผู้อ่านทราบว่า ผู้เชียนไม่ได้โต้แย้งพี่น้องที่ละหมาดตารอเวียะ 20 เราะกะอัต แต่ที่ต้องชี้แจง สืบเนื่องมาจาก มี่ผู้รู้บางท่าน อ้างว่า พี่น้องมุสลิมที่ ละหมาดญะมาอะฮ ในค่ำคืนเราะมะฎอน จำนวน 11 รอ็กอัต พร้อมละหมาดวิตร ตามหลักฐานจากหะดิษอาอีฉะฮ นั้นไม่ช่ละหมาดตะรอเวียะ รายงานดังกล่าวคือ มีผู้ถามเกี่ยวกับการละหมาดของท่านนบี ศอ็ลฯ ท่านหญิงอาอีฉะฮตอบว่า
مَا كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلاَ فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً : يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلاَ تَسْأَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ، ثُمَّ يُصَلِّي أَرْبَعًا فَلاَ تَسْأَلْ عَنْ حُسْنِهِنَّ وَطُولِهِنَّ، ثُمَّ يُصَلِّي ثَلاَثًا، قَالَتْ عَائِشَةُ رضى الله عنها فَقُلْتُ : يَا رَسُولَ اللَّهِ أَتَنَامُ قَبْلَ أَنْ تُوتِرَ قَالَ : يَا عَائِشَةُ إِنَّ عَيْنَىَّ تَنَامَانِ وَلاَ يَنَامُ قَلْبِي
“จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ ท่านละหมาด 4 ร็อกอะฮ์ และท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วท่านก็ละหมาดอีก 4 และท่านไม่ต้องถามถึงว่ามันสวยงามและยาวนานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นท่านก็ละหมาดอีก 3 ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า ฉันได้กล่าวถามว่า โอ้ร่อซูลุลลอฮฺ ท่านจะนอนก่อนละหมาดวิติรหรือไม่? ท่านนบีกล่าวว่า โอ้อาอิชะฮ์ แท้จริงสองดวงตาของฉันนั้นหลับแต่จิตใจของฉันไม่หลับ”-ะหะดิษอะอีฉะฮ บทข้างต้น ท่านอิหม่ามบุคอรีก็ได้บรรจุอยู่ในหัวข้อ กิตาบุเศาะลาตุตตะรอเวียะ เรื่อง คุณค่ากิยามุเราะมะฏอน หะดิษหมายเลข 1909
………
ขอเรียนพี่น้องทุกฝ่ายว่า
ความจริงเรื่องละหมาดตะรอเวียะ พร้อมกับ ละหมาดวิตรฺ รวม ๑๑ เราะกะอัต ได้มีแพร่หลายแล้ว ที่ทำกันในมัสยิด บ้านเราปัจจุบัน และพี่น้องบางส่วนก็ทำ ๒๓ เราะกะอัต ซึ่งไม่มีใครตำหนิ แต่ปรากฏมีฟัตวาแปลกประหลาดออกมาว่า “ละหมาดตะรอเวียะ ๘ เราะกะอัต ไม่มีหลักฐาน และละหมาด 11 รอ็กอัตจากรายงานท่านหญิงอาอีฉะฮข้างต้น ไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะ ....นี่คือสาเหตุที่ต้องชี้แจง
อิหม่ามสะยูฏีย์(ร.ฮ) ปราชญมัซฮับชาฟิอี ได้แยกเรื่องการละหมาดตารอเวียะ โดยตั้งชื่อข้อเขียนของท่านว่า 
المصابيح في صلاة التراويح (อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ)
อิหม่ามสะยูฏีย์ กล่าวยืนยันว่า ละหมาดตามรายงานอาอีฉะฮคือ กิยามุเราะมะฎอน ดังที่ท่านกล่าวว่า
أَنَّهُ قَدْ ثَبَتَ فِي صَحِيحِ الْبُخَارِيِّ وَغَيْرِهِ أَنَّ عائشة سُئِلَتْ عَنْ قِيَامِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَمَضَانَ ، فَقَالَتْ : مَا كَانَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً 
.
แท้จริง ได้ปรากฏรายงานยืนยัน ในเศาะเฮียะบุคอรี และอื่นจากเขา ว่า แท้จริงท่านหญิงอาอีฉะฮ ถูกถามเกี่ยวกับ การละหมาดของท่านรซูลุลลอฮ ในเดือนเราะมะฎอน แล้วนางกล่าวว่า ปรากฏว่าท่านนบีนั้น ละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและในอื่นจากเดือนเราะมะฎอน ไม่เคยทำเกิน 11 รอกาอัต- ดูอัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ หน้า 348 เรื่อง การละหมาดตารอเวียะ
ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
..................
คำว่า “กิยามุเราะมะฎอน “ หมายถึงละหมาดตารอเวีย คำนี้ เป็นที่รู้กัน
อิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้กล่าวตำราเล่มเดียวกันว่า
فَالْحَاصِلُ أَنَّ الْعِشْرِينَ رَكْعَةًلَمْ تَثْبُتْ مِنْ فِعْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَمَا نَقَلَهُ عَنْ صَحِيحِ ابْنِ حِبَّانَ غَايَةٌ فِيمَا ذَهَبْنَا إِلَيْهِ مِنْ تَمَسُّكِنَا بِمَا فِي الْبُخَارِيِّ عَنْ عائشة أَنَّهُ كَانَ لَا يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ ; فَإِنَّهُ مُوَافِقٌ لَهُ مِنْ حَيْثُ إِنَّهُ صَلَّى التَّرَاوِيحَ ثَمَانِيًا ثُمَّ أَوْتَرَ بِثَلَاثٍ ، فَتِلْكَ إِحْدَى عَشْرَةَ
ดังนั้น สรุปว่า แท้จริง 20 รอ็กอัตนั้น ไม่ปรากฏรายงานยืนยัน จากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และ สิ่งที่เขา(อิบนุหิบบาน)ได้อ้างถึง มันจาก เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน คือ จุดมุ่งหมาย ในสิ่งที่เราได้มีทัศนะไปยังมัน จากการที่เรายึดด้วยสิ่งที่ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรี จากอาอีฉะฮ ที่ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ เพราะแท้จริง มันมีสิ่งที่สอดคล้องกัน โดยที่ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลฯ ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัต หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร 3 รอ็กอัต ดังกล่าวนั้นคือ 11 รอ็กอัต
ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
............
จากคำพูดข้างต้น เห็นได้ชัดเจนว่า คนที่อ้างว่า ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัตไม่มีหลักฐาน หรืออ้างว่า ละหมาด 11 รอ็กอัตตามรายงานของท่านหญิงอาอีฉะฮ ไม่ใช่ตารอเวียะ คือ การบิดเบือนทางวิชาการและบิดเบือนหะดิษ เพื่อให้มาสอดรับกับแนวคิดของตน และ อิหม่ามสะยูฏีย์ยืนยันว่า หะดิษอาอีฉะฮ สอดคล้องกับหะดิษรายงานโดยอิบนุหิบบาน 
..................
คำว่า "กิยามุเราะมะฎอน คือ ละหมาดตะรอเวียะ 
ท่านอิหม่ามนะวาวีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า
والمراد بقيام رمضان صلاة التراويح
และสิ่งที่ต้องการ ด้วยคำว่า “กิยามุเราะมะฎอน คือ ละหมาดตารอเวียะ – ดูชัรหเศาะเฮียะมุสลิม เล่ม 6 หน้า 39
 ในภาพอาจจะมี ข้อความ

................
จากหลักฐานที่กล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า ปราชญมัซฮับชาฟิอี เช่น อิหม่ามสะยูฏีย์ ยืนยันว่า หะดิษของท่านหญิงอาอีฉะฮ เกี่ยวกับละหมาดกิยามุเราะมะฎอน และท่านได้เขียนริสาละฮ ชื่อ อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ และยืนยันว่า หะดิษข้างต้น
อิหม่ามสะยูฏีย์กล่าวในหัวข้อดังกล่าวอีกว่า
وَقَالَ الزركشي فِي الْخَادِمِ : دَعْوَى أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ صَلَّى بِهِمْ فِي تِلْكَ اللَّيْلَةِ عِشْرِينَ رَكْعَةً لَمْ يَصِحَّ ، بَلِ الثَّابِتُ فِي الصَّحِيحِ الصَّلَاةُ مِنْ غَيْرِ ذِكْرِ الْعَدَدِ ، وَجَاءَ فِي رِوَايَةِ جابر أَنَّهُ صَلَّى بِهِمْ ثَمَانِ رَكَعَاتٍ وَالْوَتْرَ ، ثُمَّ انْتَظَرُوهُ فِي الْقَابِلَةِ فَلَمْ يَخْرُجْ إِلَيْهِمْ . رَوَاهُ ابْنُ خُزَيْمَةَ وَابْنُ حِبَّانَ فِي صَحِيحَيْهِمَا
และอัรซัรกะชีย์ ได้กล่าวไว้ใน อัลคอดิม ว่า การอ้างว่า นบี ศอ็ลฯ ละหมาดนำพวกเขา ในคืนนั้น 20 รอ็กอัต เป็นรายงานที่ไม่เศาะเฮียะ.แต่ในทางกลับกัน มี่รายงานที่ยืนยัน ในอัศเศาะอียะ คือการละหมาด โดยไม่ระบุจำนวนรอ็กอัต ,และมีรายงาน หนึ่งของญาบีร ว่า ท่านนบี ศอ็ลฯละหมาดนำพวกเขา 8 รอ็กอัต และละหมาดวิตรฺ หลังจากนั้นพวกเขา เฝ้ารอท่านนบี ในคืนต่อมา ปรากฏว่าท่านนบีไม่ออกมายังพวกเขา –รายงานงานโดย อิบนุคุซัยมะฮและอิบนุหิบบาน ในเศาะเฮียะของเขาทั้งสอง – ดู ดูอัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ หน้า 348 เรื่อง การละหมาดตารอเวียะ ที่มีหัวข้อเรืองชื่อ อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ
..........
ละหมาดตารอเวียะ 8 และ วิตร 3 มีหลักฐาน แต่กลับมีคนที่ชาวบ้านเรียกว่า “โต๊ะครู” หรืออาจารย์ มาสร้างความสับสนว่า ไม่มีหลักฐาน แล้วกลุ่มคนที่ตะอัศศุบนำข้ออ้างของท่านครูคนนี้มาอ้างกล่าวหาคนที่ไม่ละหมาดตารอเวียะ 20 รอ็กอัตเหมือนพวกตน จึงอยากถามว่า คนกลุ่มใหนกันแน่ที่สร้างฟิตนะฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
ปล. หลักฐานที่นำมาชี้แจงข้องต้น เกินพอแล้วสำหรับคนที่นับถือศาสนาเพื่ออัลลอฮ เพื่อหวังผลการตอบแทนในวันอาคีเราะฮ ยกเว้นผู้ที่หวังผลทางดุนยา โดยการเอาชนะด้วยตรรก และความเห็น

เขาบอกว่าไม่มีละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอัต


ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
เขาบอกว่าไม่มีละหมาดตารอเวียะ 8 รอ็กอัต
Humaira Asadullah 
54 นาที
ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าตารอแวหแปด เพราะตารอแวหคือพหูพจของตัรวีหะห์ อย่างน้อยต้องสามตัรวีหะห์ถึงจะเรียกตารอแวห อย่ามั่นใจนักถ้ามีแค่ดาลีลซอนนี
เพราะมันทำให้ตัวเองดู...
@@@@
ขอชี้แจงแก่พี่น้องทุกท่านว่า
ไม่ว่าเดือนเราะมะฎอน หรือเดือนใหน การชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการบิดเบือนทางวิชาการที่เผยแพร่ในที่สาธารณะ นั้น เราก็ต้องทำ อย่างกรณีข้างต้น ได้นำบทความผมไปโพสต์ตั้งกระทู้ แล้วชี้แจงโดยปราศจากการนำเสนอหลักฐานว่า "ไม่มีละหมาดตารอแวะ 8 รอ็กอัต" โดยการนั่งเทียนอ้าง จึงขอชี้แจงดังนี้
คำว่า قَامَ رَمَضَانَ กับคำว่า قِيَامُ رَمَضَانَ มีที่มาจากรากศัพท์เดียวกันและมีความหมายอย่างเดียวกัน .. คือ การยืนนมาซยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน ...
ส่วน ชื่อคำว่า ละหมาดตะรอเวียะ เป็นการเรียก ในยุคหลัง
และอัลหาฟิซ อิบนุหะญัร กล่าว ถึงหะดิษที่นบีละหมาดกิยามุเราะมะฎอน กับเหล่าเศาะหาบะฮ ว่า
، وَلَمْ أَرَ فِي شَيْءٍ مِنْ طُرُقِهِ بَيَانَ عَدَدِ صَلَاتِهِ فِي تِلْكَ اللَّيَالِي ، لَكِنْ رَوَى ابْنُ خُزَيْمَةَ ، وَابْنُ حِبَّانَ مِنْ حَدِيثِ جَابِرٍ ، قَالَ : صَلَّى بِنَا رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَمَضَانَ ثَمَانِ رَكَعَاتٍ ، ثُمَّ أَوْتَرَ
และข้าพเจ้า ไม่พบ ในสิ่งใดๆจากบรรดาสายรายงานของมัน อธิบายจำนวนเราะกะอัตของการละหมาดของท่านนบี ในคืนดังกล่าวนั้น แต่ อิบนุคุซัยมะฮ ,อิบนุหิบบาน ได้รายงานจากญาบีร ว่า เขากล่าวว่า “รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ได้ละหมาดกับพวกเราในเดือนเราะมะฏอน 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาด วิตร -ฟัตหุลบารีย 12/3
>>>>>>>>
ท่านอัลหาฟิซอิบนุหะญัร ระบุเองว่า ท่านนบี ศอ็ล ฯ ละหมาดในเดือนเราะมะฏอน กับ เศาะหาบะฮ 8 รอ็กอัต และหลังจากนั้น ก็ละหมาดวิตรฺ ถ้า ละหมาดนั้น ไม่ใช่กิยามุเราะมะฎอน หรือละหมาดตะรอเวียะ แล้วมีละหมาดอะไรอีกหรือ
อิหม่ามอัชเชากานีย์ ได้ระบุ 2 หะดิษต่อไปนี้ไว้ในเรื่อง ละหมาดตะรอเวียะ โดยตั้งชื่อเรื่องว่า 
باب صلاة التراويح 
แล้วท่านได้ระบุหะดิษต่อไปนี้ไว้ในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า
، وَأَمَّا الْعَدَدُ الثَّابِتُ عَنْهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي صَلَاتِهِ فِي رَمَضَانَ ، فَأَخْرَجَ الْبُخَارِيُّ وَغَيْرُهُ عَنْ عَائِشَةَ أَنَّهَا قَالَتْ { مَا كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً } .
และสำหรับจำนวนรอ็กอะฮ ที่ยืนยันรายงานจาก ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในการละหมาดของท่านในเดือนเราะมะฏอน ,อัลบุคอรีย์และคนอื่นจากเขา ได้รายงานจาก อาอีฉะฮว่า นางกล่าวว่า “ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในหรือนอกรอมฎอนเกินกว่า 11 ร๊อกอะฮ์ 
และอีกหะดิษที่อิหม่ามเชากานีย์ ระบุคือ
وَأَخْرَجَ ابْنُ حِبَّانَ فِي صَحِيحِهِ مِنْ حَدِيثِ جَابِرٍ { أَنَّهُ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ صَلَّى بِهِمْ ثَمَانِ رَكَعَاتٍ ثُمَّ أَوْتَرَ } . 
และอิบนุหิบบาน ได้บันทึกในเศาะเฮียะของเขา จากหะดิษญาบีรว่า “แท้จริง “ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ละหมาดกับพวกเขา 8 รอ็กอะฮ หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร - ดู นัยลุลเอาฏอร เล่ม 3 หน้า 66
อัซซัรกอนีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า
وروى ابن حبان عن جابر : " أنه صلى بهم ثمان ركعات ثم أوتر " وهذا أصح
และอิบนุหิบบานรายงานจาก ญาบีร ว่า แท้จริงท่านนบี ได้ละหมาดนำพวกเขา(เหล่าเศาะหาบะฮ) 8 รอ็กอัต หลังจากนั้นท่านได้ละหมาดวิต (อัซซัรกอนีย์กล่าวว่า) นี้คือ ที่ถูกต้อง(เศาะเฮียะ)กว่า - ดูชัรหอัซซัรกอนีย์ อะลัลมุวัฏเฎาะอิหม่ามมาลิก เล่ม 1 หน้า 310 หัวข้อ باب الترغيب في الصلاة في رمضان
>>>>>>>>>>> 
โต๊ะครูบางคน ที่อ้างว่า 8 รอ็กอะฮ ไม่ใช่ละหมาดตะรอเวียะ แล้วไปถ่ายทอด ชาวบ้านสับสน วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
29/5/60