

การทำงานรับค่าตอบแทนจากรัฐเป็นการกินเงินชุบฮาตที่หะรอมจริงหรือ
อาชาอีเราะห์มะตุรีดี อะลิ้ฮัก ·
เรืองรับค่าจ้าง คงไม่มีปัญหาอยู่แล้วมีปัญหาทีว่า ทำไหมทีตรงนี้ วะฮาบีไม่เอาผลบุญการสอน แต่ดับไปเอาค่าจ้าง ยังชัดเจน
เรืองเวาะ ทีไปแดกค่าจ้าง จากรัฐ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะชัดเจน
(ฮะรอมซุบฮะ) แน่นอน
หรือเวาะจะกียาสต่ออะฮะ
@@@@
เรืองเวาะ ทีไปแดกค่าจ้าง จากรัฐ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะชัดเจน
(ฮะรอมซุบฮะ) แน่นอน
หรือเวาะจะกียาสต่ออะฮะ
@@@@
ชี้แจง
สืบเนื่องมาจากอดีตเคยเป็นครู กินเงินเดือนจากรัฐ จึงเป็นประเด็นที่คนบางกลุ่มที่อ้างว่า สังกัดมัซฮับอาชาอิเราะฮ หลายท่านรวมถึงคนที่มีนามแฝงข้างต้น ใช้ประเด็นนี้ดิสเครดิตผมหลายต่อหลายครั้ง เพื่อไม่ให้ผู้อ่านเชื่อในสิ่งที่ผมนำเสนอเกี่ยวกับศาสนา เพราะมีทัศนะไม่เห็นด้วยกับการทำชิริกและบิดอะฮ และไม่เห็นด้วยกับการนำคุณลักษณะของอัลลอฮ มาตีความตามตรรกทางปัญญา ซึ่งปราศจากหลักฐาน และการกล่าวหาว่า กินเงินชุบฮาต เป็นพ่ายใบสุดท้ายที่เขาจะเล่นเมื่อเจอทางตัน
แต่ในทางกลับกัน ผู้นำทางศาสนาอิสลามสูงสุด ในประเทศไทย ,กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ,ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ,บรรดาอิหม่ามประจำมัสยิด ,บรรดากรรมการมัสยิด , บรรดาครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ,บรรดาข้าราชการมุสลิมทุกกระทรวงทบวงกรม ต่างก็รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากรัฐทั้งนั้น แต่กลับมีคนบางกลุ่มที่ใช้อารมณ์ตัดสินพี่น้องมุสลิมเหล่านี้ว่า "กินเงินหะรอมชุบฮาต" วัลอิยาซุบิลละฮ"
ขอเรียนว่า การเป็นลูกจ้างของรัฐที่ไม่ใช่รัฐอิสลามและการเป็นลูกจ้างรับค่าตอบแทนจากคนต่างศาสนิกนั้น เป็นอนุญาต ไม่ใช่เงินหะรอมชุบฮาตตามที่บุคคลที่ใช้นามแฝงว่า "อาชาอีเราะห์มะตุรีดี อะลิ้ฮัก"ข้างต้น อ้างและกล่าวหาคนที่รับค่าตอบแทนและกินเงินเดือนจากรัฐ
มาดูตัวอย่างการทำธุรกรรมกับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม
จากอาอิชะฮฺ เราะฏิยัลลอฮฺ อันฮา กล่าวว่า
اشْتَرَى رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مِنْ يَهُودِيٍّ طَعَامًا بِنَسِيئَةٍ وَرَهَنَهُ دِرْعَهُ
ความว่า “ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ซื้ออาหารจากชาวยิวโดยการใช้เครดิตแล้วเอาเสื้อเกราะประกันไว้” (บันทึกโดยอัลบุคอรี หมายเลข 1990, และมุสลิม หมายเลข 1603)
ในหนังสือ มัจญมัวะชัรหุอัลมุฮัซซับ ของอิหม่ามนะวาวีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
ในหนังสือ มัจญมัวะชัรหุอัลมุฮัซซับ ของอิหม่ามนะวาวีย์(ร.ฮ)กล่าวว่า
قال أصحانبا يجوز أن يستأجر الكافر مسلما على عمل في الذمة بلا خلاف كما يجوز للمسلم أن يشترى منه شيئا بثمن في الذمة
บรรดาสหายของเรา(หมายถึงปราชญมัซฮับชาฟิอี) กล่าวว่า อนุญาตให้กาเฟร ว่าจ้างมุสลิม ให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดยไม่มีการเห็นขัดแย้ง เช่นเดียวกับ อนุญาตให้มุสลิม ซื้อสิ่งใดๆจากเขา ด้วยราคาที่อยู่ในความรับผิดชอบ –อัล มัจญมัวะ เล่ม 9 หน้า 359
เพราะฉะนั้น การเป็นลูกจ้างของรัฐ โดยรัฐว่าจ้างจากเงินภาษีอากร ทำไมจะไม่ได้
ในหลักนิติศาสตร์อิสลาม ว่าด้วยเรื่องมุอามะลาต(การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีไว้ว่า
أن الأصل في العقود والمعاملات الإباحة ولا يحرم منها إلا ما ورد الشرع بتحريمه ، وهذا القول هو قول أكثر الحنفية[5] وهو قول المالكية[6] والشافعية[7] والحنابلة[8]
แท้จริง หลักเดิมในเรื่อง การทำข้อตกลง และการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม คือ การอนุญาต และจะไม่ถูกห้ามจากมัน นอกจาก สิ่งที่ปรากฏจากศาสนบัญญัติ ด้วยห้ามมัน และนี้คือ ทัศนะ มันคือ ทัศนะส่วนมากของปราชญ์หะนะฟียะฮ, มาลิกียะฮ,ชาฟิอียะฮและอัลหะนาบะฮละฮ และมันคือ
.........................
.........................
[5] ينظر : الأشباه والنظائر لابن نجيم ص 66 شرح فتح القدير 7 / 3 غمز عيون البصائر 1 / 223 تبيين الحقائق للزيلعي 4 / 87 أصول الجصاص 3 / 252- 254 التقرير والتحبير 2 / 101 فواتح الرحموت 1 / 49
[6] الذخيرة للقرافي 1 / 155 التلقين للقاضي عبد الوهاب 2 / 359 المقدمات الممهدات لابن رشد 2 / 128 الخرشي على مختصر خليل 5 / 149 الموافقات للشاطبي 1 /284 – 285
[7] الرسالة للإمام الشافعي ص 232 ف 646 الأم 3 / 2 غياث الأمم في إلتياث الظلم للجويني ص 492 المحصول للرازي 6 / 197 سلاسل الذهب للزركشي ص 423
[8] مجموع فتاوى ابن تيمية 28 / 386 القواعد النورانية ص 210 إعلام الموقعين 1 / 344 شرح الكوكب المنير 1 /322 – 325 كشاف القناع للبهوتي 3 / 53 الفروع لابن مفلح 3 / 60 المغني لابن قدامة مع الشرح 4 / 429
..................................
[6] الذخيرة للقرافي 1 / 155 التلقين للقاضي عبد الوهاب 2 / 359 المقدمات الممهدات لابن رشد 2 / 128 الخرشي على مختصر خليل 5 / 149 الموافقات للشاطبي 1 /284 – 285
[7] الرسالة للإمام الشافعي ص 232 ف 646 الأم 3 / 2 غياث الأمم في إلتياث الظلم للجويني ص 492 المحصول للرازي 6 / 197 سلاسل الذهب للزركشي ص 423
[8] مجموع فتاوى ابن تيمية 28 / 386 القواعد النورانية ص 210 إعلام الموقعين 1 / 344 شرح الكوكب المنير 1 /322 – 325 كشاف القناع للبهوتي 3 / 53 الفروع لابن مفلح 3 / 60 المغني لابن قدامة مع الشرح 4 / 429
..................................
ในหลักการว่าจ้าง การเช่า การซื้อขาย และอื่น ๆ ในการทำข้อตกลงทางธุรกิจ ไม่มีเงื่อนไขใดที่ระบุว่า คู่ทำข้อตกลง ต้องเป็นมุสลิม เพราะฉะนั้น การอ้างว่า การทำงานกินเงินเดือนของรัฐ เป็นการกินเงินหะรอมนั้น เป็นการอ้างที่ปราศจากหลักฐาน
อิบนุกุดามะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า
وَلَوْ أَجَّرَ مُسْلِمٌ نَفْسَهُ لِذِمِّيِّ ، لِعَمَلٍ فِي ذِمَّتِهِ ، صَحَّ ؛ { لِأَنَّ عَلِيًّا ، رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ أَجَرَ نَفْسَهُ مِنْ يَهُودِيٍّ ، يَسْتَقِي لَهُ كُلَّ دَلْوٍ بِتَمْرَةٍ ، وَأَتَى بِذَلِكَ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَكَلَهُ} وَفَعَلَ ذَلِكَ رَجُلٌ مِنْ الْأَنْصَارِ ، وَأَتَى بِهِ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَلَمْ يُنْكِرْهُ .وَلِأَنَّهُ لَا صَغَارَ عَلَيْهِ فِي ذَلِكَ
.
และหากมุสลิม ว่าเช่าตัวเขาเอง(หมายถึงรับจ้าง) ให้แก่กาเฟรซิมมีย์ เพื่อทำงาน ในความรับผิดชอบของเขา การรับจ้างนั้นถือว่าใช้ได้ (เพราะ แท้จริง ท่านอาลี (ร.ฎ) เคยรับจ้างจากชาวยิว ตักน้ำให้แก่เขา ทุกๆหนึ่งถัง ด้วยค่าตอบแทนอินตผลัมหนึ่งเม็ด และเขาได้นำดังกล่าวนั้น ให้แก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านนบีได้รับประทานมัน ) และชายชาวอันศอรคนหนึ่ง ได้ปฏิบัติ ดังกล่าวนั้น(หมายถึงปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ท่านอาลีปฏิบัติ) และเขาได้นำมันให้แก่ท่านนบี ศอ็ลฯ ท่านนบีไม่ได้ปฏิเสธมัน และ(เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ)เพราะว่าแท้จริง ไม่ถือเป็นการต่ำต้อย(เสียเกียรติ) สำหรับเขา(มุสลิม) ในการกระทำ(การรับจ้าง)ดังกล่าว - ดู อัลมุฆนีย์อิบนุกุดามะฮ เล่ม 6 หน้า 370 ตะหกีก ดร.อับดุลลอฮ บิน อับดิลมุหซิน อัตตุรกีย์
.........
จากคำพูดของอิบนุกุดามะฮข้าต้นคือ
.อนุญาตให้มุสลิมรับจ้างทำงานให้คนต่างศาสนิกได้ เพราะ
1.ท่านอาลี(ร.ฎ)เคยรับจ้างตักน้ำให้แก่ชาวยิว ด้วยค่าจ้างทุกๆ หนึ่งถังได้ค่าตอบแทน อินทผลัม 1 เม็ด และชาวอินศอรก็เคยปฏิบัติและทั้งสองได้มอบให้ท่าน ท่านนบีศอ็ลฯ ท่านนบีก็รับประทานไม่ได้ปฏิเสธ
2. การรับจ้างทำงานให้แก่ต่างศาสนิก ไม่ได้ทำให้มุสลิมตกต่ำ หรือเสียเกียรติ
..................
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า การทำงานให้แก่รัฐที่ไม่ใช่มุสลิม และรับค่าตอบแทน ไม่ได้เป็นสิ่งที่หะรอมชุบฮาต อย่างที่อาชาอิเราะฮที่ใช้นามแฝง ว่า อาชาอีเราะห์มะตุรีดี อะลิ้ฮัก ·นั่งเทียนกล่าวหาแต่ประการใด
.
และหากมุสลิม ว่าเช่าตัวเขาเอง(หมายถึงรับจ้าง) ให้แก่กาเฟรซิมมีย์ เพื่อทำงาน ในความรับผิดชอบของเขา การรับจ้างนั้นถือว่าใช้ได้ (เพราะ แท้จริง ท่านอาลี (ร.ฎ) เคยรับจ้างจากชาวยิว ตักน้ำให้แก่เขา ทุกๆหนึ่งถัง ด้วยค่าตอบแทนอินตผลัมหนึ่งเม็ด และเขาได้นำดังกล่าวนั้น ให้แก่ท่านนบี ศอ็ลฯ แล้วท่านนบีได้รับประทานมัน ) และชายชาวอันศอรคนหนึ่ง ได้ปฏิบัติ ดังกล่าวนั้น(หมายถึงปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ท่านอาลีปฏิบัติ) และเขาได้นำมันให้แก่ท่านนบี ศอ็ลฯ ท่านนบีไม่ได้ปฏิเสธมัน และ(เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ)เพราะว่าแท้จริง ไม่ถือเป็นการต่ำต้อย(เสียเกียรติ) สำหรับเขา(มุสลิม) ในการกระทำ(การรับจ้าง)ดังกล่าว - ดู อัลมุฆนีย์อิบนุกุดามะฮ เล่ม 6 หน้า 370 ตะหกีก ดร.อับดุลลอฮ บิน อับดิลมุหซิน อัตตุรกีย์
.........
จากคำพูดของอิบนุกุดามะฮข้าต้นคือ
.อนุญาตให้มุสลิมรับจ้างทำงานให้คนต่างศาสนิกได้ เพราะ
1.ท่านอาลี(ร.ฎ)เคยรับจ้างตักน้ำให้แก่ชาวยิว ด้วยค่าจ้างทุกๆ หนึ่งถังได้ค่าตอบแทน อินทผลัม 1 เม็ด และชาวอินศอรก็เคยปฏิบัติและทั้งสองได้มอบให้ท่าน ท่านนบีศอ็ลฯ ท่านนบีก็รับประทานไม่ได้ปฏิเสธ
2. การรับจ้างทำงานให้แก่ต่างศาสนิก ไม่ได้ทำให้มุสลิมตกต่ำ หรือเสียเกียรติ
..................
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า การทำงานให้แก่รัฐที่ไม่ใช่มุสลิม และรับค่าตอบแทน ไม่ได้เป็นสิ่งที่หะรอมชุบฮาต อย่างที่อาชาอิเราะฮที่ใช้นามแฝง ว่า อาชาอีเราะห์มะตุรีดี อะลิ้ฮัก ·นั่งเทียนกล่าวหาแต่ประการใด
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
6/5/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
6/5/60
ปล.ช้างล่างคือข้อกล่าวหาปราศจากหลักฐาน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น