วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สิ่งที่อิหม่ามนำละหมาดตารอเวียะควรคำนึง


ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ
ในภาพอาจจะมี ข้อความ
ในภาพอาจจะมี ข้อความ

สิ่งที่อิหม่ามนำละหมาดตารอเวียะควรคำนึง
การนำละหมาดบรรดาผู้คน ไม่ว่าจะเป็นละหมาดฟัรดูหรือสุนัต สิ่งที่อิหม่ามนำละหมาดควรคำนึ่งคือ สภาพที่แตกต่างของบรรดผู้ที่เป็นมะอมูม เพราะบางที่คนที่ละหมาดตามเรานั้น มีคนชรา แม่ลูกอ่อน คนสุขภาพไม่แข๊งแรงและเด็กๆ คนเหล่านี้ ถ้าอิหม่ามอ่านยาวๆ หรือบางคนเปิดเล่มกุรอ่านเพื่อจะได้อ่านให้ยาวตามความชอบของตัวเอง ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ฉันทำตามสุนนะฮ บางมัสยิดจ้างนักเรียนฮาฟิซอัลกุรอ่านมาเป็นอิหม่ามเพื่อให้อ่านยาวให้สมใจอิหม่าม ขอบอกว่า ถ้าตามสุนนะฮจริง อิหม่ามต้องพิจารณาถึงสภาพของมะมูมด้วย
มีรายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
«إِذَا صَلَّى أَحَدُكُمْ لِلنَّاسِ فَلْيُخَفِّفْ، فَإِنَّ مِنْهُمُ الضَّعِيفَ وَالسَّقِيمَ وَالْكَبِيرَ، وَإِذَا صَلَّى أَحَدُكُمْ لِنَفْسِهِ فَلْيُطَوِّلْ مَا شَاءَ»
ความว่า “เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดได้ละหมาดนำผู้อื่น เขาจงละหมาดให้สั้นๆ (อ่านซูเราะฮ์สั้นๆ) เพราะในหมู่คนเหล่านั้นมีผู้อ่อนแอ คนป่วย และคนชรา แต่เมื่อเขาละหมาดเพื่อตัวเขาเอง (ละหมาดคนเดียว) เขาก็จงละหมาดนานๆตามแต่เขาประสงค์”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ : 703 และมุสลิม : 467)
มาดูฟัตวาเช็คบินบาซ 
وسئل الشيخ عبد العزيز بن باز - : 
มีผู้ถามเช็คอับดุลอะซีซ บินบาซ ว่า 
هل ينبغي للإمام مراعاة حال الضعفاء من كبار السن ونحوهم في صلاة التراويح ؟ 
สมควรหรือไม่สำหรับอิหม่าม ที่จะเอาใจใส่ต่อสภาพของบรรดาผู้อ่อนแอ อันเนื่องมาจากอายุมาก และในทำนองเดียวกับพวกเขา ในละหมาดตะรอเวียะ ? 
فأجاب :
هذا أمر مطلوب في جميع الصلوات ، في التراويح وفي الفرائض ؛ لقوله صلى الله عليه وسلم : ( أيكم أمَّ الناس فليخفف فإن فيهم الضعيف والصغير وذا الحاجة ) ، فالإمام يراعي المأمومين ويرفق بهم في قيام رمضان وفي العشر الأخيرة ، وليس الناس سواء ، فالناس يختلفون ، فينبغي له أن يراعي أحوالهم ويشجعهم على المجيء وعلى الحضور فإنه متى أطال عليهم شق عليهم ونفَّرهم من الحضور ، فينبغي له أن يراعي ما يشجعهم على الحضور ويرغبهم في الصلاة ولو بالاختصار وعدم التطويل ، فصلاة يخشع فيها الناس ويطمئنون فيها ولو قليلا خير من صلاة يحصل فيها عدم الخشوع ويحصل فيها الملل والكسل . 
ตอบ 
นี้คือสิ่งที่ต้องการในบรรดาละหมาดทั้งหมด ,ในละหมาดตะรอเวียะ และในบรรดาละหมาดที่เป็นฟัรดู เพราะนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า "ใครก็ตามในหมู่พวกท่าน นำละหมาดบรรดาผู้คน เขาจงละหมาดสั้นๆ เพราะแท้จิงในหมู่พวกเขา (มะมูม) มีผู้อ่อนแอ ,มีเด็กเล็กๆ และผู้ที่มีธุระจำเป็น )" ดังนั้นอิหม่ามจะต้องเอาใจใส่ต่อบรรดามะอฺมูม และ เมตตาต่อพวกเขา ในการละหมาดกิยามุเราะมะฎอนและในสิบวันสุดท้าย และ บรรดาผู้คนนั้น ไม่ได้มีสภาพเหมือนกัน เพราะบรรดาผู้คนนั้นมีสภาพแตกต่างกัน จึงสมควรแก่เขา(อิหม่าม)จะต้องเอาใจใส่ ต่อสภาพของพวกเขา และ ให้พวกเขากล้าที่จะมา และมาร่วม(ละหมาดญะมาอะฮ) เพราะ เมื่อเขา(อิหม่าม) ละหมาดนาน ก็จะเกิดความลำบากแก่พวกเขา และทำให้พวกเขาหนีจากการมาร่วมละหมาด ดังนั้น จึงสมควรแก่อิหม่าม จะต้องเอาใจใส่สิ่งที่จะทำให้พวกเขากล้าที่จะมาร่วม(ละหมาดญะมาอะฮ) และ ให้พวกเขาชอบในการละหมาด และแม้ว่าจะด้วยการละหมาดให้สั้นลง และไม่อ่านยาว เพราะละหมาดหนึ่ง ที่ผู้คนมีความคุชัวะ ในมัน และมีความสงบนิ่งในมัน และแม้ว่าจะน้อยก็ตาม ดีกว่าละหมาด ที่ไม่มีการคุชัวะในมันและ(ดีกว่าละหมาด) ที่ทำให้เกิดการอ่อนเพลียและเกียจค้านเกิดขึ้นในมัน 
" فتاوى الشيخ عبد العزيز بن باز " ( 11 / 336 ، 337
........................................................
เป็นอิหม่ามไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้แก่มะมูมที่อ่อนแอ ด้วยการอ่านยาวตามความต้องการของตน ควรคำนึงถึงความแตกต่างของมะมูมด้วยว่า ในหมู่พวกเขามีคนป่วย คนชรา และผู้ที่มีธุระอยู่ด้วย
والله اعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
28/5/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น