
วาทกรรมบิดเบือนทางวิชาการเพื่อสนับสนุนการอุตริบิดอะฮ
นาย Amaluddeen Abdulqodir อ้างว่าอิบนุอะษีรได้กล่าวยืนยันว่า
والبدعة الحسنة فى الحقيقة سنة، وعلى هذا التأويل يحمل حديث " كل محدث بدعة" على ما خالف أصول الشريعة، وما لم يخالف السنة
"และในความเป็นจริงแล้วบิดอะฮ์หะสะนะฮ์ ก็คือซุนนะฮ์นั่นเอง และให้อธิบายตามนัยนี้ หะดิษที่ว่า "ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น เป็นบิดอะฮ์" โดยหมายถึง สิ่งที่ขัดกับหลักพื้นฐานของศาสนา และสิ่งที่ขัดกับซุนนะฮ์ " ดู หนังสือ อันนิฮายะฮ์ เล่ม 1 หน้า 80
@@@@
ข้างต้นมีการเพื่มคำเติมและตัดตอนหะดิษออก ไป มาดูข้อความเต็มๆ
، وَإِنَّمَا عُمَرُ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ جَمَعَ النَّاسَ عَلَيْهَا وَنَدَبَهُمْ إِلَيْهَا ، فَبِهَذَا سَمَّاهَا بِدْعَةً ، وَهِيَ عَلَى الْحَقِيقَةِ سُنَّةٌ ، لِقَوْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : عَلَيْكُمْ بِسُنَّتِي وَسُنَّةِ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ مِنْ بَعْدِي وَقَوْلِهِ : اقْتَدُوا بِاللَّذَيْنِ مِنْ بَعْدِي أَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَعَلَى هَذَا التَّأْوِيلِ يُحْمَلُ الْحَدِيثُ الْآخَرُ كُلُّ مُحْدَثَةٍ بِدْعَةٌ إِنَّمَا يُرِيدُ مَا خَالَفَ أُصُولَ الشَّرِيعَةِ وَلَمْ يُوَافِقِ السُّنَّةَ . وَأَكْثَرُ مَا يُسْتَعْمَلُ الْمُبْتَدَعُ عُرْفًا فِي الذَّمِّ .
และความจริง อุมัร(ร.ฏ) ได้รวบรวมผู้คน บนมัน และส่งเสริมพวกเขาไปสู่มัน เพราะเหตุนี้จึงเรียกว่าบิดอะฮ และในความเป็นจริงมันคือสุนนะฮ เพราะนบี ศอ็ลฯกล่าวว่า พวกท่านจงยึดสุนนะฮของฉันและ สุนนะฮเคาลิฟะฮรอชิดี หลังจากฉัน....และท่านนบีกล่าวว่า พวกท่านจงปฏิบัติตาม บรรดาผู้ที่อยู่หลังจากฉัน คือ อบูบักร์และอุมัร
และบนการอธิบายตามนัยนี้ ก็ถูกตีความหะดิษที่ว่า "ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นเป็นบิดอะฮ์" นั้น บนสิ่งที่ขัดกับหลักพื้นฐานของศาสนา และสิ่งที่ขัดกับซุนนะฮ์" ดูหนังสือ อันนิฮายะฮ์ เล่ม 1 หน้า 80
และบนการอธิบายตามนัยนี้ ก็ถูกตีความหะดิษที่ว่า "ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้นเป็นบิดอะฮ์" นั้น บนสิ่งที่ขัดกับหลักพื้นฐานของศาสนา และสิ่งที่ขัดกับซุนนะฮ์" ดูหนังสือ อันนิฮายะฮ์ เล่ม 1 หน้า 80

1.เพิ่มคำว่า
وَالْبِدْعَةُ الْحَسَنَةُ
وَالْبِدْعَةُ الْحَسَنَةُ
ในตำราของอิบนุอะษีร ที่เป็นของจริงมีดังนี้
فَبِهَذَا سَمَّاهَا بِدْعَةً ، وَهِيَ عَلَى الْحَقِيقَةِ سُنَّةٌ
ด้วยเหตุนี้ เขาได้เรียกมันว่า บิดอะฮ โดยที่ตามความเป็นจริงแล้ว - มันคือซุนนะฮ์
2.ตัดหะดิษ 2 บทที่อิบนุอัลอะษีร ใช้เป็นหลักฐานคือ
ด้วยเหตุนี้ เขาได้เรียกมันว่า บิดอะฮ โดยที่ตามความเป็นจริงแล้ว - มันคือซุนนะฮ์
2.ตัดหะดิษ 2 บทที่อิบนุอัลอะษีร ใช้เป็นหลักฐานคือ
لِقَوْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : عَلَيْكُمْ بِسُنَّتِي وَسُنَّةِ الْخُلَفَاءِ الرَّاشِدِينَ مِنْ بَعْدِي وَقَوْلِهِ : اقْتَدُوا بِاللَّذَيْنِ مِنْ بَعْدِي أَبِي بَكْرٍ وَعُمَرَ وَ
เพราะนบี ศอ็ลฯกล่าวว่า พวกท่านจงยึดสุนนะฮของฉันและ สุนนะฮเคาลิฟะฮรอชิดี หลังจากฉัน....และท่านนบีกล่าวว่า พวกท่านจงปฏิบัติตาม บรรดาผู้ที่อยู่หลังจากฉัน คือ อบูบักร์และอุมัร

.................
ท่านอิบนุอะษีร หมายถึง สิ่งที่ท่านอุมัร รวบรวมคน ให้ปฏิบัติ โดยการนำอิหม่ามคนเดียว ที่ท่านกล่าวว่า "นี้คือบิดอะฮที่ดีนั้น ความจริง มันคือสุนนะฮ โดยอิบนุอะษีร ได้อ้างหลักฐานหะดิษ 2 บทข้างต้น
แต่นายAmaluddeen Abdulqodir ซึ่งกอ็ปมาอีกที ตัดหะดิษที่อิบนุอะษีรอ้างเป็นหลักฐานข้างต้นออกไป นี้คือ ความไร้อามานะทางวิชาการ และบิดเบือนเพื่อให้สอดรับ กับการอุตริบิดอะฮ โดยอ้างว่า บิดอะฮที่ดีของตนเองคิดขึ้นมาว่าดี คือ สุนนะฮ -วัลอิยาซุบิลละฮ
แต่นายAmaluddeen Abdulqodir ซึ่งกอ็ปมาอีกที ตัดหะดิษที่อิบนุอะษีรอ้างเป็นหลักฐานข้างต้นออกไป นี้คือ ความไร้อามานะทางวิชาการ และบิดเบือนเพื่อให้สอดรับ กับการอุตริบิดอะฮ โดยอ้างว่า บิดอะฮที่ดีของตนเองคิดขึ้นมาว่าดี คือ สุนนะฮ -วัลอิยาซุบิลละฮ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
10/5/60
อะสัน หมัดอะดั้ม
10/5/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น