วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เมื่อเจอความจริงชัยฏอนก็บิดเบือน





ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ข้างล่างคือหลักฐานเปิดโปงว่า บุคคลข้างต้นบิดเบือนโกหก

 ในภาพอาจจะมี ข้อความ
ในภาพอาจจะมี ข้อความ

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

เมื่อเจอความจริงชัยฏอนก็บิดเบือน
Abdulhaleem Matraksa
กีตาบที่อ้างว่าอิหม่ามซายูฏี เป็นเจ้าของ ที่ชื่อ المصابيح ที่เวาะสันอ้างมี50หน้า ตะฮฺกีกโดยเชควาบี เพิ่งเคยตีพิมไม่กี่วันที่ผ่านมา น่าเชื่อถือมากเลยนะครับ มีน้ำหนักดีมากๆ เพราะอุลามาประเทศอื่นเขาไม่เห็นรุ้จักหนังสือเล่มนี้เลย
@@@@
ชี้แจง
สืบเนืองมาจาก บุคคลข้างต้น คือ Abdulhaleem Matraksa และคณะ ปฏิเสธว่า หะดิษต่อไปนี้ว่า ไม่เกี่ยวกับละหมาดตารอเวียะ คือ
ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร.ฎ. ก็กล่าวตอบว่า ...
مَا كَانَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَزِيْدُ فِىْ رَمَضَانَ وَلاَ فِىْ غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً .........
“ท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยนมาซ – ไม่ว่าในเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่เดือนรอมะฎอน – เกินกว่า 11 ร็อกอะฮ์ .......................”
(บันทึกโดยท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิม, ท่านอิหม่ามมาลิก, ท่านอบูดาวูด, ท่านอัน-นะซาอีย์, ท่านอะห์มัด, ท่านอัต-ติรฺมีซีย์, ท่านอัล-บัยฮะกีย์, และท่านอบู อะวานะฮ์
ท่านบุคอรีย์ได้นำเอาหะดีษบทข้างต้นนี้มาบันทึกไว้ในหนังสือหะดีษ “อัศ-เศาะเหี๊ยะห์” ของท่าน 3 ตำแหน่งคือ ...
1. ในกิตาบ “อัต-ตะฮัจญุด” หะดีษที่ 1147, บาบว่าด้วยเรื่อง “การนมาซของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอนและเดือนอื่นๆ” ..
2. ในกิตาบ “ศ่อลาตุ้ตตะรอเวี๊ยะห์” หะดีษที่ 2013, บาบว่าด้วยเรื่อง “ความประเสริฐของการนมาซยามค่ำคืนในเดือนรอมะฎอน ..
3. ท่านอัล-บัยฮะกีย์ ได้บันทึกหะดีษนี้ในหนังสือ “อัส-สุนัน อัล-กุบรออ์” ของท่าน เล่มที่ 2 หน้า 495 ในบาบว่าด้วยเรื่อง “สิ่งที่ถูกรายงานมาเกี่ยวกับจำนวนร็อกอะฮ์ของนมาซยามค่ำคืนเดือนรอมะฎอน (คือนมาซตะรอเวี๊ยะห์) ...
4. ท่านมุหัมมัด อิบนุนัศร์ อัล-มัรฺรูซีย์ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 294) ได้เขียนหนังสือชี้แจงหลักฐานเกี่ยวกับการนมาซเหล่านี้รวม 3 เล่ม .. คือหนังสือกิยามุรอมะฎอน , หนังสือกิยามุ้ลลัยล์, และหนังสือศ่อลาตุ้ตตะรอเวี๊ยะห์ ...
.
............
แต่ Abdulhaleem Matraksa และคณะ กลับปฏิเสธว่าหะดิษข้างต้นไม่เกี่ยวกับละหมาดตารอเวียะ และ 11 รอ็กอัตที่นบีศอ็ลฯละหมาดในเดือนเราะมะฎอนไม่ใช่ละหมาดตารอเวียะ
ข้าพเจ้าผู้เขียนจึงยืนยันว่า อิหม่ามอัสสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ยืนยันว่า ละหมาด 11 รอ็กอัตที่นบี ละหมาดในเดือนเราะมะฎอนคือ ละหมาดตารอเวียะ คือ
อิหม่ามสะยูฏีย์ กล่าวยืนยันว่า ละหมาดตามรายงานอาอีฉะฮคือ กิยามุเราะมะฎอน ดังที่ท่านกล่าวว่า
أَنَّهُ قَدْ ثَبَتَ فِي صَحِيحِ الْبُخَارِيِّ وَغَيْرِهِ أَنَّ عائشة سُئِلَتْ عَنْ قِيَامِ رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي رَمَضَانَ ، فَقَالَتْ : مَا كَانَ يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ رَكْعَةً 
.
แท้จริง ได้ปรากฏรายงานยืนยัน ในเศาะเฮียะบุคอรี และอื่นจากเขา ว่า แท้จริงท่านหญิงอาอีฉะฮ ถูกถามเกี่ยวกับ การละหมาดของท่านรซูลุลลอฮ ในเดือนเราะมะฎอน แล้วนางกล่าวว่า ปรากฏว่าท่านนบีนั้น ละหมาดในเดือนเราะมะฎอนและในอื่นจากเดือนเราะมะฎอน ไม่เคยทำเกิน 11 รอกาอัต- ดูอัลหาวีย์ ลิลฟะตาวีย์ หน้า 348 เรื่อง การละหมาดตารอเวียะ
อิหม่ามสะยูฏีย์ (ร.ฮ) ได้กล่าวตำราเล่มเดียวกันว่า
فَالْحَاصِلُ أَنَّ الْعِشْرِينَ رَكْعَةًلَمْ تَثْبُتْ مِنْ فِعْلِهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ، وَمَا نَقَلَهُ عَنْ صَحِيحِ ابْنِ حِبَّانَ غَايَةٌ فِيمَا ذَهَبْنَا إِلَيْهِ مِنْ تَمَسُّكِنَا بِمَا فِي الْبُخَارِيِّ عَنْ عائشة أَنَّهُ كَانَ لَا يَزِيدُ فِي رَمَضَانَ وَلَا فِي غَيْرِهِ عَلَى إِحْدَى عَشْرَةَ ; فَإِنَّهُ مُوَافِقٌ لَهُ مِنْ حَيْثُ إِنَّهُ صَلَّى التَّرَاوِيحَ ثَمَانِيًا ثُمَّ أَوْتَرَ بِثَلَاثٍ ، فَتِلْكَ إِحْدَى عَشْرَةَ
ดังนั้น สรุปว่า แท้จริง 20 รอ็กอัตนั้น ไม่ปรากฏรายงานยืนยัน จากการกระทำของท่านนบี ศอ็ลฯ และ สิ่งที่เขา(อิบนุหิบบาน)ได้อ้างถึง มันจาก เศาะเฮียะอิบนุหิบบาน คือ จุดมุ่งหมาย ในสิ่งที่เราได้มีทัศนะไปยังมัน จากการที่เรายึดด้วยสิ่งที่ปรากฏในเศาะเฮียะบุคอรี จากอาอีฉะฮ ที่ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยละหมาดในเดือนร่อมะฎอนหรืออื่นจากเดือนร่อมะฎอนเกิน 11 ร็อกอะฮ์ เพราะแท้จริง มันมีสิ่งที่สอดคล้องกัน โดยที่ แท้จริง ท่านนบี ศอ็ลฯ ละหมาดตะรอเวียะ 8 รอ็กอัต หลังจากนั้น ท่านได้ละหมาดวิตร 3 รอ็กอัต ดังกล่าวนั้นคือ 11 รอ็กอัต
............
เมื่อนำเสนอความจริงข้างต้น นึกว่าจะยอมรับความจริง แต่ นายAbdulhaleem Matraksa และคณะกลับสวมหัวโขนชัยฏอน กล่าวหาว่า "วะฮบีย์เพิ่มเติมขึ้นมาเอง เพราะอุลามาประเทศอื่นเขาไม่เห็นรุ้จักหนังสือเล่มนี้เลย 
 ..................
ขอชี้แจงว่า เป็นการอ้างโกหกบิดเบือน ของ นาย Abdulhaleem Matraksa เพราะหนังสือ (อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ ได้พิมพ์รวมกับ อัลหาวีย์ลิลฟะตาวีย์ ซึ่งเป็นตำราของอิหม่ามสะยูฏีย์เอง เช่นกัน(ดังสำเนาที่แนบมา)
:ซึ่งได้มีการจัดพิมพ์มา นานแล้ว ทีผมนำมาอ้างอิงค์ พิมพ์ ในปี ฮ.ศ 1402 และปัจจุบัน ปี ฮ.ศ 1438 ผ่านมาแล้ว 36 ปี
และ หัวข้อ "อัลมะศอเบียะ ฟี เศาะลาติตตะรอเวียะ ได้พิมพ์รวมเป็นเล่มเดียวกับ หนังสืออัลหาวีย์ลิลฟะตาวีย์ " หน้า 347 ซึ่งพิมพ์เมื่อ 36 ปีที่แล้ว (ดูสำเนาที่แนบมา) 
 จึงแสดงให้เห็นว่า Abdulhaleem Matraksa และคณะได้สร้างวาทกรรมใส่ร้ายคนที่ถูกเรียกวะฮบีย์และโกหกบิดเบือน อย่างน่าละอายที่สุด เพียงแค่ต้องการจะสนับสนุน ทัศนะ 20 รอ็กอัต จึงกล้าโกหกขนาดนี้เชียวหรือ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
31/5/60

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น