


การเชื่อว่าหะดิษเมียะรอจญแสดงถึงการอยู่เบื้องสูงเป็นกาเฟรจริงหรือ
Abdulhaleem Matraksa
24 มีนาคม · Saba Yoi, Songkhla ·
بـــــــسم اللـــه الرحمن الرحيـــــــم
24 มีนาคม · Saba Yoi, Songkhla ·
بـــــــسم اللـــه الرحمن الرحيـــــــم
19- وقال أيضا (18): "ويكفر من يعتقد التحيز لله تعالى، أو يعتقد أن الله شىء كالهواء أو كالنور يملأ مكانا أو غرفة أو مسجدا، ونسمي المساجد بيوت الله لا لأن الله يسكنها بل لأنها أماكن يعبد الله فيها. وكـذلك يكفر من يقول (الله يسكن قلوب أوليائه) إن كان يفهم الحلول. وليس المقصود بالمعراج وصول الرسول إلى مكان ينتهي وجود الله تعالى إليه ويكفر من اعتقد ذلك، إنما القصد من المعراج هو تشريف الرسول- صلّى الله عليه و سلّم- باطلاعه على عجائب في العالم العلوي، وتعظيم مكانته ورؤيته للذات المقدس بفؤاده من غير أن يكون الذات في مكان " اهـ.
19.และเชคอัลฮะบะชีย์ ได้กล่าวอีกว่า"เป็นกาเฟรสำหรับผู้ยึดถือว่าอัลเลาะฮ์ทรงพึ่งพาสถานที่ หรือยึดถือว่าแท้จริงอัลเลาะฮ์ทรง เป็นดังเช่นอากาศ หรือรัศมี ที่เต็มไปในทุกสถานที่ หรือใน1กอบมือ หรือในมัสยิด และเหตุที่เรียกว่ามัสยิดนั้นว่า บรรดาบ้านของอัลเลาะฮ์ ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงอยู่ในนั้น แต่มันเป็นสถานที่กราบไหว้พระค์
และเช่นเดียวกัน เป็นกาเฟรสำหรับผู้ที่กล่าวว่า"อัลเลาะฮ์อยู่ในหัวใจของเหล่า วะลียุลเลาะฮ์"หากผู้กล่าวเข้าใจว่าพระองคทรงอยู่ด้วยซาตของพระองค์
และไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการที่รอซูล(ซล)ขึ้นฟ้า หรือเมี๊ยรอจ นั้นคือการได้ถึงไปสถานที่หนึ่งที่สิ้นสุดการมีอัลเลาะฮ์ ณ สถานที่นั้น โดยเป็นกาเฟรกับผู้ยึดถือเช่นนั้น และโดยเฉพาะจุดหมาย คือการที่พระองค์ให้เกียรติต่อท่านรอซูล(ซล)เพื่อให้ท่านได้เห็นเรื่องประหลาดในสิ่งถูกสร้างทั้งหมด ที่สูงส่ง และเป็นการให้เกียรติกับฐานะของท่าน และเพื่อให้ท่านมองเห็นซาต ที่บริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยหัวใจ ไม่ใช่ซาตที่พึ่งพาสถานที่
19.และเชคอัลฮะบะชีย์ ได้กล่าวอีกว่า"เป็นกาเฟรสำหรับผู้ยึดถือว่าอัลเลาะฮ์ทรงพึ่งพาสถานที่ หรือยึดถือว่าแท้จริงอัลเลาะฮ์ทรง เป็นดังเช่นอากาศ หรือรัศมี ที่เต็มไปในทุกสถานที่ หรือใน1กอบมือ หรือในมัสยิด และเหตุที่เรียกว่ามัสยิดนั้นว่า บรรดาบ้านของอัลเลาะฮ์ ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงอยู่ในนั้น แต่มันเป็นสถานที่กราบไหว้พระค์
และเช่นเดียวกัน เป็นกาเฟรสำหรับผู้ที่กล่าวว่า"อัลเลาะฮ์อยู่ในหัวใจของเหล่า วะลียุลเลาะฮ์"หากผู้กล่าวเข้าใจว่าพระองคทรงอยู่ด้วยซาตของพระองค์
และไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการที่รอซูล(ซล)ขึ้นฟ้า หรือเมี๊ยรอจ นั้นคือการได้ถึงไปสถานที่หนึ่งที่สิ้นสุดการมีอัลเลาะฮ์ ณ สถานที่นั้น โดยเป็นกาเฟรกับผู้ยึดถือเช่นนั้น และโดยเฉพาะจุดหมาย คือการที่พระองค์ให้เกียรติต่อท่านรอซูล(ซล)เพื่อให้ท่านได้เห็นเรื่องประหลาดในสิ่งถูกสร้างทั้งหมด ที่สูงส่ง และเป็นการให้เกียรติกับฐานะของท่าน และเพื่อให้ท่านมองเห็นซาต ที่บริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยหัวใจ ไม่ใช่ซาตที่พึ่งพาสถานที่
@@@@@
ชี้แจง
พรรคพวกได้ลิงค์บทความ นายAbdulhaleem Matraksa ได้นำทัศนะของชัยค์อัลหับชีย์ หรือ ชัยค์อับดุลลอฮ อัลฮะเราะรีย์ ผู้มีแนวคิดญะฮมียะฮ
มาดูฟาตาวาสภาอุลามาอฺซาอุดีย์ ข้างล่างเกี่ยวกับหัวหน้าอัลอะฮบาชคนนี้
السؤال :
هل عبد الله الهرري الحبشي خدم الإسلام أم هدمه ؟.
تم النشر بتاريخ: 2000-05-02
คำถาม
อับดุลลอฮอัลอัลฮะเราะรีย์ อัลหับชีย์ รับใช้อิสลามหรือ ทำลายอิสลาม?
الجواب :
هل عبد الله الهرري الحبشي خدم الإسلام أم هدمه ؟.
تم النشر بتاريخ: 2000-05-02
คำถาม
อับดุลลอฮอัลอัลฮะเราะรีย์ อัลหับชีย์ รับใช้อิสลามหรือ ทำลายอิสลาม?
الجواب :
الرجل المذكور رجل سوء ، من رؤوس البدعة والضلال في هذا العصر ، وقد جنّد نفسه وأتباعه لهدم عقيدة المسلمين التي كان عليها النبي صلى الله عليه وسلم وأصحابه والتابعون ، وجمعوا لأنفسهم مذهباً فاسداً في الفقهيات ، ملؤوه بكل شاذ ورديء من القول لا سند له من كتاب أو سنة
ตอบ
ตอบ
ชายที่ถูกกล่าวถึง เป็นคนเลว เป็นส่วนหนึ่งจากหัวหน้าบิดอะฮ และการหลงผิด ในสมัยนี้ เขาได้ เกณฑ์ตัวเขาเองและบรรดาผู้ที่ตามเขา เพื่อทำลายอะกีดะฮบรรดามุสลิม ที่ท่านนบี ศอ็ลน ,บรรดาเศาะหาบะฮของท่านนบีและบรรดาตาบิอีน ได้ดำเนินอยู่บนมัน และพวกเขาได้รวม แนวทาง(มัซฮับ)ที่ผิด สำหรับตัวพวกเขาเอง ในบรรดาเรืองฟิกฮ ที่ถูกให้เต็มไปด้วย ทุกๆทัศนะที่แหวกแนวและเลวทราม ไม่มีสายรายงานสำหรับมันจาก คัมภีร์(อัลกุรอ่าน)หรือสุนนะฮ........ดู ฟัตวาอัลลุจญนะฮ ฯ เล่ม 12 หน้า 304 ฟัตวาหมายเลข 90177
..........
ทัศนะของคนแนวคิดประเภทนี้ที่คุณ
Abdulhaleem Matraksa เอามาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว
ทัศนะของคนแนวคิดประเภทนี้ที่คุณ
Abdulhaleem Matraksa เอามาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว
การอ้างหลักฐานจากหะดิษอิสรออฺและเมียะรอจญ์ เพื่อยืนยันการอยู่เบื้องสูงเหนืออะรัชของอัลลอฮ ตาอาลานั้น เป็นการยืนยันจากปราชญ์ยุคสะลัฟและเคาะลัฟ เช่น
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 223-311)
อิหม่ามอิบนุคุซัยมะฮ (ฮ.ศ 223-311)
وَفِي الأَخْبَارِ دَلالَةٌ وَاضِحَةٌ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ عُرِجَ بِهِ مِنَ الدُّنْيَا إِلَى السَّمَاءِ السَّابِعَةِ ، وَأَنَّ اللَّهَ تَعَالَى فَرَضَ عَلَيْهِ الصَّلَوَاتِ عَلَى مَا جَاءَ فِي الأَخْبَارِ ، فَتِلْكَ الأَخْبَارُ كُلُّهَا دَالَّةٌ عَلَى أَنَّ الْخَالِقَ الْبَارِئَ فَوْقَ سَبْعِ سَمَاوَاتِهِ
ในบรรดาการบอกเล่า(หมายถึงหะดิษอัลเมียะรอจญ) คือหลักฐาน แสดงว่า แท้จริงนบี ศอ็ลฯ ถูกนำขึ้น จากดุนยา สู่ชั้นฟ้าที่เจ็ด และอัลลอฮ ตาอาลา ได้กำหนดละหมาดห้าเวลา ให้เป็นข้อบังคับ บนสิ่งที่มีมาในบรรดาคำบอกเล่า(หมายถึงหะดิษเมียะรอจญ์) และ บรรดาคำบอกเล่า(หะดิษ) ทั้งหมด แสดงบอกว่า พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรค์ ผู้ทรงให้บังเกิด อยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้าของพระองค์ - กิตาบุตเตาฮีด หน้า 119
อิบนุคุซัยมะฮ ปราชญยุคสะลัฟ ยืนยันว่า หะดิษเมียะรอจญเป็นหลักฐานว่าอัลลอฮอยู่เหนือเจ็ดชั้นฟ้า
อิบนุอะบิลอิซ อัดดะมัชกีย์ กล่าวว่า
وَفِي حَدِيثِ الْمِعْرَاجِ دَلِيلٌ عَلَى ثُبُوتِ صِفَةِ الْعُلُوِّ لِلَّهِ تَعَالَى
وَفِي حَدِيثِ الْمِعْرَاجِ دَلِيلٌ عَلَى ثُبُوتِ صِفَةِ الْعُلُوِّ لِلَّهِ تَعَالَى
และในหะดิษเมียะรอจญ คือ หลักฐาน แสดงการยืนยัน คุณลักษณะ การอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮตาอาลา – ดู ชัรหุอะกีดะฮอัฏเฏาะฮาวียะฮ 1/277
สำนวนหะดิษเมียะรอจญที่ว่า ที่ว่า
فعلا به جبريل حتى أتى إلى الجبار وهو في مكانه
ญิบรีลได้นำเขา(นบี)ขึ้นไป จนกระทั่งมาถึง พระเจ้าผู้ทรงอนุภาพ โดยที่พระองค์ อยู่ ณ สถานที่ของพระองค์..-.
ดู อัลมุสนัดอัลมุสตัคริจญ อะลาเศาะเฮียะมุสลิม ของอบูนุอัยนฺ เล่ม 1 หน้า 230
......
คนโง่เขลาเท่านั้น ที่อ้างว่า ญิบรีล นำท่านนบี ขึ้นไปหาเกียรติของอัลลอฮ ไม่ใช่ขึ้นไปหาอัลลอฮจริงๆ
ดู อัลมุสนัดอัลมุสตัคริจญ อะลาเศาะเฮียะมุสลิม ของอบูนุอัยนฺ เล่ม 1 หน้า 230
......
คนโง่เขลาเท่านั้น ที่อ้างว่า ญิบรีล นำท่านนบี ขึ้นไปหาเกียรติของอัลลอฮ ไม่ใช่ขึ้นไปหาอัลลอฮจริงๆ
จึงสรุปว่า การอ้างหะดิษเมียะรอจญ เป็นหลักฐานการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮ นั้น ไม่ใช่อะกีดะฮบิดอะฮ อย่างที่ผู้ใส่ร้ายวะฮบีย์โกหกบิดเบือนใส่ร้ายวะฮบีย์
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
20/5/60
20/5/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น