


แปลก... ทำเมาลิดได้อยู่กับบรรดานบีในสวรรค์ชั้นสูงสุด แต่กลับไม่มีที่มาจากอัสสุนนะฮ
ในหนังสือ อิอานะตุฏฏอลิบีน ตำราที่ใช้สอนตามปอเนาะ อ้างว่า
من هيأ لأجل قراءة مولد الرسول طعاما، وجمع إخوانا، وأوقد سراجا، ولبس جديدا، وتعطر وتجمل تعظيما لمولده حشره الله تعالى يوم القيامة مع الفرقة الأولى من النبيين، وكان في أعلى عليين.
من هيأ لأجل قراءة مولد الرسول طعاما، وجمع إخوانا، وأوقد سراجا، ولبس جديدا، وتعطر وتجمل تعظيما لمولده حشره الله تعالى يوم القيامة مع الفرقة الأولى من النبيين، وكان في أعلى عليين.
ผู้ใดเตรียมอาหาร เพื่อสำหรับการอ่านเมาลิดรอซูล และรวบรวมญาตพี่น้อง และจุดตะเกียง และสวมเสื้อผ้าใหม่ ,ใส่น้ำห้อมและแต่งกายสวยงาม เพื่อเป็นการเทิดเกียรติ เมาลิดของท่านรอซูล อัลลอฮตาอาลา จะรวมเขาให้อยู่พร้อมกับชนพวกแรกจากบรรดานบีและเขาจะได้อยู่ในสวรรค์ ชั้นสุงสูด - อิอานะฮอัฏฏอลีบีน เล่ม 3 หน้า 364
........
และได้ระบุอีกว่า
........
และได้ระบุอีกว่า
وقال الإمام اليافعي اليمنى: من جمع لمولد النبي - صلى الله عليه وسلم - إخوانا وهيأ طعاما وأخلى مكانا وعمل إحسانا وصار سببا لقراءة مولد الرسول بعثه الله يوم القيامة مع الصديقين والشهداء والصالحين ويكون في جنات النعيم.
อิหม่ามอัลยาฟิอีย์ อัลยะมะนีย์ กล่าวว่า ผู้ใดรวบรวมญาติพิน้อง เพื่อทำเมาลิดนบี ศอ็ลฯ และจัดเตรียมอาหาร ,จัดสถานที่ให้ว่างและประกอบการดี และทำมัน เพื่อให้ได้มีการอ่าน เมาลิดรอซูล อัลลอฮ จะให้เขาฟื้นขึ้นมาในวันกิยามะฮ จะได้อยู่พร้อม การบรรดา ศิดดีกีน(บรรดาผู้ที่เชื่อโดยดุษฏี) บรรดาผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม และบรรดาผู้ที่ประพฤติดี และเขาจะได้อยู่ในสวรรค์อันนะอีม -3/364-365
...........................
จึงถามว่า ความดีและคุณค่าอันมากมายเช่นนี้ ทำไม่นบีไม่สอนไว้ ทำไม่เศาะหาบะฮฮและชาวสะลัฟจึงไม่ปฏิบัติ และเอาหลักฐานมาจากใหนว่าจะได้อยู่ในสวรรค์อัลนะอีม จะได้อยู่สวรรค์ชั้นสูงสุด พร้อมกับบรรดานบี
เพราะเท่าที่ปรากฏ ไม่ว่าผู้ที่สนับสนุนหรือผู้ที่ค้านต่างก็บอกว่ามันเป็นบิดอะฮที่เกิดขึ้นหลังจากสามร้อยปีแรกซึ่งเป็นยุคสะลัฟผู้ทรงธรรม
อัลฟากิฮานีย์ (ร.ฮ) กล่าวไว้ ว่า
...........................
จึงถามว่า ความดีและคุณค่าอันมากมายเช่นนี้ ทำไม่นบีไม่สอนไว้ ทำไม่เศาะหาบะฮฮและชาวสะลัฟจึงไม่ปฏิบัติ และเอาหลักฐานมาจากใหนว่าจะได้อยู่ในสวรรค์อัลนะอีม จะได้อยู่สวรรค์ชั้นสูงสุด พร้อมกับบรรดานบี
เพราะเท่าที่ปรากฏ ไม่ว่าผู้ที่สนับสนุนหรือผู้ที่ค้านต่างก็บอกว่ามันเป็นบิดอะฮที่เกิดขึ้นหลังจากสามร้อยปีแรกซึ่งเป็นยุคสะลัฟผู้ทรงธรรม
อัลฟากิฮานีย์ (ร.ฮ) กล่าวไว้ ว่า
لا أعلمُ لهذا المولِدِ أصلًا في كِتابٍ ولا سُنَّةٍ، ولا يُنقَلُ عَمَلُه عن أحدٍ مِن عُلماءِ الأُمَّة، الذين هُم القُدوةُ في الدِّين، المتمسِّكونَ بآثارِ المتقدِّمين، بلْ هو بِدعةٌ أحْدَثها البَطَّالون... وهذا لم يأذنْ فيه الشرعُ، ولا فعَلَه الصحابةُ ولا التابِعون، ولا العُلماءُ المتديِّنون، فيما عَلِمتُ، وهذا جوابي عنه بين يَدَيِ اللهِ إنْ عنه سُئلتُ، ولا جائزٌ أن يكونَ مُباحًا؛ لأنَّ الابتِداعَ في الدِّين ليس مُباحًا بإجماعِ المسلِمين
ข้าพเจ้าไม่รู้ที่มาของเมาลิดนี้ ในคัมภีร์,ไม่มีสุนนะฮ และ การกระทำมัน ไม่ได้ถูกรายงานจากคนหนึ่งคนใดจากบรรดาอุลามาอฺแห่งอุมมะฮ ซึ่งพวกเขา คือ แบบอย่างในศาสนา เป็นบรรดาผู้ที่ยึดถือ ด้วยบรรดาร่องรอย ของบรรดาชนยุคก่อน ยิ่งกว่านั้น มันคือบิดอะฮ ที่บรรดาผู้ที่ไร้สาระ ได้ประดิษขึ้นมาใหม่ ..........และกิจกรรมนี้ ศาสนาไม่ได้อนุมัติ ในมัน ,บรรดาเศาะหาบะฮ,บรรดาตาบิอีน และบรรดา นักปราชญที่ดำเนินตามศาสนา ตามที่ข้าพเจ้าได้รู้มา และนี้คือ คำตอบของข้าพเจ้า เกี่ยวกับมัน ต่อหน้าอัลลอฮ หากข้าพเจ้าถูกถาม และ ไม่มีอนุญาตให้มันเป็นสิ่งที่อนุญาต เพราะแท้จริง การอุตริบิดอะฮในศาสนานั้น มาเป็นสิ่งที่อนุญาตโดยมติของบรรดามุสลิมีน – อัลมูริด ฟีอะมะลิลเมาลิด หน้า 20
..............
ผู้เขียนมิได้เจตนาลบหลู่ ตำรา อิอาอะฮอัฏฏอลิบีนและไม่ได้ดูถูกผู้ที่ส่งเสริม เพียงแต่ให้พี่น้องได้ศึกษาข้อเท็จจริงแล้วใช้พิจารณาญานว่า สิ่งนี้ผู้ปฏิบัติ และผู้ส่งเสริม เอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องโดยอ้างคุณค่ามากมายที่จะได้รับในวันกิยามะฮ แต่ กลับไม่มีแบบอย่างจากอัสสุนนะฮและการกระทำของบรรพชนยุคสะลัฟเลย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/5/60
..............
ผู้เขียนมิได้เจตนาลบหลู่ ตำรา อิอาอะฮอัฏฏอลิบีนและไม่ได้ดูถูกผู้ที่ส่งเสริม เพียงแต่ให้พี่น้องได้ศึกษาข้อเท็จจริงแล้วใช้พิจารณาญานว่า สิ่งนี้ผู้ปฏิบัติ และผู้ส่งเสริม เอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องโดยอ้างคุณค่ามากมายที่จะได้รับในวันกิยามะฮ แต่ กลับไม่มีแบบอย่างจากอัสสุนนะฮและการกระทำของบรรพชนยุคสะลัฟเลย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/5/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น