


การห้ามทำบุญ 3 วัน 7 วัน ในหนังสืออิอานะตุฏฏอลีบีน (ที่ถูกมองข้าม)
ในหนังสือ อิอานะตุฏฏอลีบีน เล่ม 2 หน้า 145- 146 ว่า
مَا يَفْعَلُهُ النَّاسُ مِنَ اْلاِجْتَمَاعِ عِنْدَ اَهْلِ الْمَيِّتِ وَصُنْعِ الطَّعَامِ مِنَ الْبِدَعِ الْمُنْكَرَةِ
สิ่งที่บรรดาผู้คนปฏิบัติ จากการชุมนุมกัน ที่ครอบครัวผู้ตาย และทำอาหาร กินกัน เป็นส่วนหนึ่งจากบรรดาบิดอะฮที่ต้องห้าม
وَيَكْرَهُ اتِّخَاذُ الطَّعَامِ فِى الْيَوْمِ اْلاَوَّلِ وَالثَّالِث وَبَعْدَ اْلاُسْبُوْعِ وَنَقْلُ الطَّعَامِ اِلَى الْقُبُوْرِ
และมักรูฮ เลี้ยงอาหารในวันที่ 1 วันที่ 3 และหลังจาก สัปดาห์(หมายถึงวันที่ 7) และ การนำอาหารพาไปยังกุโบร์
وِمِنَ الْبِدَعِ الْمُنْكَرَةِ الْمَكْرُوْهِ فَعْلُهُ مَا يَفْعَلُ النَّاسُ مِنَ الْوَحْشَةِ وَالْجَمْعِ وَاْلاَرْبِعِيْنَ بَلْ كَلُّ ذَلِكَ حَرَامٌ
และส่วนหนึ่งจากบิดอะฮที่ต้องห้าม ที่น่ารังเกียจ คือ การปฏิบัติมัน สิ่งที่บรรดาผู้คนได้ปฏิบัติกัน จากการแสดงความโศกเศร้า ,การชุมนุมกันและ การเลี้ยงอาหารครบรอบสี่สิบวัน ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดดังกล่าวนั้น คือสิ่งที่หะรอม(ต้องห้าม)
وَلاَ شَكَّ اَنَّ مَنْعَ النَّاسِ مِنْ هَذِهِ الْبِدْعَةِ الْمُنْكَرَةِ فِيْهِ اِحْيَاءٌ لِلسُّنَّةِ وَاِمَاتَةٌ لِلْبِدْعَةِ وَفَتْحٌ لِكَثِيْرٍ مِنْ اَبْوَابِ الْخَيْرِ وَغَلْقٌ لِكَثِيْرٍ مِنْ اَبْوَابِ الشَّرِّ ، فَاِنَّ النَّاسَ يَتَكَلَّفُوْنَ تَكَلُّفًا كَثِيْرًا يُؤَدِّيْ اِلَى اَنْ يَكُوْنَ ذَلِكَ الصُّنْعُ مُحَرَّمًا .
.
และไม่มีการสงสัยใดๆว่าแท้จริง การห้ามผู้คน จากบิดอะฮที่ต้องห้ามนี้ ในมัน(ในการห้ามผู้คน)คือ การฟื้นฟูสุนนะฮ และการทำให้บิดอะฮตายไป และคือการเปิดประตูของความดีงาม อันมากมาย และคือ การปิดประตูแห่งความชั่วร้ายมากมาย เพราะแท้จริง บรรดาผู้คน พยามปฏิบัติ อันเป็นการสร้างภาระอันมากมาย ที่นำไปสู่การ การปฏิบัติสิ่งที่หะรอม(ต้องห้าม)
และไม่มีการสงสัยใดๆว่าแท้จริง การห้ามผู้คน จากบิดอะฮที่ต้องห้ามนี้ ในมัน(ในการห้ามผู้คน)คือ การฟื้นฟูสุนนะฮ และการทำให้บิดอะฮตายไป และคือการเปิดประตูของความดีงาม อันมากมาย และคือ การปิดประตูแห่งความชั่วร้ายมากมาย เพราะแท้จริง บรรดาผู้คน พยามปฏิบัติ อันเป็นการสร้างภาระอันมากมาย ที่นำไปสู่การ การปฏิบัติสิ่งที่หะรอม(ต้องห้าม)
ในหนังสือ อิอานะฮ์ อัฏฏอลิบีน กล่าวระบุอีกไว้ว่า
ويكره لأهل الميت الجلوس للتعزية ، وصنع طعام يجمعون الناس عليه ، لما روى أحمد عن جرير بن عبد الله الجبلى ، قال : كنا نعد الإجتماع إلى أهل الميت وصنعهم الطعام بعد دفنه من النياحة...ويستحب لجيران أهل الميت...أن يصنعوا لأهله طعاما يكفيهم يوما وليلة ، وأن يلحوا عليهم فى الأكل . ويحرم صنعه للنائحة، لأنه إعانة على معصية
"มักโระฮ์(น่ารังเกียจ) สำหรับครอบครัวผู้ตาย กับการนั่งเพื่อให้ทำการปลอมใจ และ(ครอบครัวผู้ตาย)ทำอาหาร โดยที่พวกเขาทำการรวมผู้คน(ที่มาปลอบใจ)มารับประทานอาหาร เพราะมีร่องรอยที่รายงานโดย ท่านอะหฺมัด จากท่าน ญะรีร บิน อับดิลลาฮ์ อัล-ญะบะลีย์ เขากล่าวว่า เราถือว่า การรวมตัวไปยังครอบครัวผู้ตาย และการทำอาหารของพวกเขา หลังจากฝังมัยยิดแล้วนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากการนิยาหะฮ(ที่ต้องห้าม).....และสุนัตให้กับเพื่อนบ้านของครอบครัวผู้ตาย ทำอาหารให้แก่ครอบครัวผู้ตาย ให้เพียงพอกับพวกในวันหนึ่งและคืนหนึ่ง และทำการคะยั้นคะยอให้พวกเขารับประทาน และหะรอมทำอาหารแก่หญิงที่ทำการคร่ำครวญไว้อาลัย เพราะมันเป็นการช่วยเหลือกับสิ่งที่ฝ่าฝืน " ดู เล่ม 2 หน้า 145
.............
ที่กล่าวมา เป็นเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ อิอานะตุฏฏอลิบีน ตำราสอนตามปอเนาะ เล่ม 2 หน้า 145-146 ที่ถูกมองข้ามมาช้านาน
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/5/60
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม
2/5/60
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น